วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 551 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" (ตอนที่ 2)
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ในฉบับนี้ ขอถ่ายทอดบรรยากาศสัมมนา ในหัวข้อ "แนวทางการปลูกมะนาวให้ได้ผลดี" ซึ่ง คุณวิสุทธิ์ สุวรรณมณี ทำหน้าที่เป็นพิธีกรพูดคุยเรื่องการปลูกมะนาวกับ รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ดังต่อไปนี้
พิธีกร : ผู้เริ่มต้นปลูกมะนาว ควรเลือกพันธุ์มะนาวอย่างไร?
รศ.ดร. รวี : ควรเลือกพันธุ์มะนาว โดยใช้ตลาดเป็นตัวนำ สำหรับภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ชาวบ้านนิยมใช้มะนาวตาฮิติค่อนข้างเยอะ โดยจังหวัดน่านเป็นแหล่งสำคัญที่ปลูกมะนาวตาฮิติ ช่วงฤดูปกติ จะขายมะนาวได้กิโลกรัมละ 3 บาท แต่ช่วงหน้าแล้งขายได้กิโลกรัมละ 60 บาท จะซื้อได้ประมาณ 7-8 ลูก/กิโลกรัม
พิธีกร : เทคนิคการเลือกซื้อกิ่งพันธุ์มะนาว?
รศ.ดร. รวี : ควรเลือกซื้อกิ่งพันธุ์ที่ปลอดโรค 2 ชนิด คือ
1. โรคทริสเตซ่าไวรัส (CTV) เนื่องจากมะนาวไทยอ่อนแอต่อโรคนี้มากที่สุด หากติดโรคนี้ ต้นมะนาวมีอาการใบเหลือง หลุดร่วงง่าย หรือเกิดอาการยางไหลออกมาจากเปลือกของลำต้น ต้นมะนาวจะโทรมและแห้งตายในที่สุด ส่วนใหญ่โรคนี้มักจะติดมากับกิ่งตอนหรือต้นตอที่เคยมีโรคเกิดมาก่อน หรือเกิดจากแมลงและเพลี้ยอ่อนบางชนิดเข้ามากัดกินหรือดูดอาหารจากต้นมะนาว
2. โรคแคงเกอร์ ลักษณะอาการเกิดขึ้นได้แทบทุกส่วน ทั้งใบ กิ่ง ก้าน และผล มีอาการเป็นแผลกลมๆ และขยายใหญ่ขึ้นๆ และจะแตกเป็นสะเก็ด มีวงแหวนสีเหลืองล้อมรอบแผล เมื่อโรคลามขึ้น ต้นจะแคระแกร็น ใบร่วง และแห้งตายในที่สุด
หากโรคแคงเกอร์เข้าสวนมะนาวเมื่อไหร่ คนปลูกตายไปแล้ว แต่โรคแคงเกอร์จะมีชีวิตอยู่ไปอีกนาน เพราะแคงเกอร์เป็นเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อรา ยาที่มีอยู่ทั้งหมดไม่สามารถรักษาแคงเกอร์ได้ แม้แต่คอปเปอร์ ก็ปราบโรคแคงเกอร์ไม่ได้ เมื่อนำไปโรยจะทำให้รอยแผลไม่ขยายกว้างขึ้นเท่านั้น ส่วนใบที่เป็นโรค ติดเชื้อแบคทีเรียก็หลุดร่วงลงดิน ตามทฤษฎีเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะมีชีวิตฝังตัวอยู่ในดินประมาณ 3 เดือน แต่ในความเป็นจริง เชื้อแบคทีเรียจะฝังตัวอยู่ในดินตลอดชีวิต เพราะมีผลและใบใหม่ที่เป็นโรคแคงเกอร์หลุดร่วงลงดินตลอดเวลา
พิธีกร : กิ่งพันธุ์เป็นโรค มีข้อสังเกตอย่างไร?
รศ.ดร. รวี : สำหรับกิ่งพันธุ์ที่ติดเชื้อไวรัส หากอาการไม่รุนแรงจะมองไม่เห็น ส่วนต้นมะนาวที่ติดเชื้อแคงเกอร์จะสังเกตอาการได้ง่าย การรักษาที่พอช่วยได้คือ การตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคไม่ให้ขยายพันธุ์ พยายามอย่าให้ผลเกิดบาดแผล และป้องกันแมลงที่เป็นพาหะ เช่น หนอนชอนใบ และแมลงกลุ่มคาร์บาริล มาลาไธออน ซึ่งกำจัดได้ด้วยการฉีดพ่นยาฆ่า
ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ต้นตอสำหรับมะนาว เพราะฉะนั้น การโฆษณาขายกิ่งพันธุ์ที่ใช้ต้นตอพันธุ์ดี ขายในราคาแพงขึ้น อย่าเพิ่งเชื่อคนขายร้อยเปอร์เซ็นต์ เรื่องต้นตอ กรณีที่เราผลิตได้ ไม่ได้หมายความว่า มันจะอยู่ได้ดี เพียงแค่มันไม่ตาย ส่วนจะดีหรือไม่ดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
พิธีกร : การเลือกดินสำหรับการปลูกมะนาว?
รศ.ดร. รวี : ในตำราทั่วไป มักแนะนำว่า ผู้ปลูกมะนาว ควรใช้ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่ปัจจุบันผมแนะนำให้ ควรเลือกใช้ดินที่ระบายน้ำดีที่สุดคือ ดินทราย หากใครต้องการผลิตมะนาวนอกฤดู เรื่องการระบายน้ำ ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง
สมัยก่อน ยังไม่มีเทคโนโลยีเรื่องธาตุอาหารและปุ๋ย พืชเติบโตโดยอาศัยธรรมชาติ ปัจจุบัน หากปลูกมะนาวในดินทราย เราสามารถควบคุมวินัยของต้นไม้ได้เช่นเดียวกับการฝึกทหารเกณฑ์ สามารถบังคับให้ต้นไม้กินหรือหยุดกินธาตุอาหารชนิดใด ก็ทำได้หมด แต่ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เราบังคับต้นไม้ได้ยาก เหมือนลูกคนรวยมีเงินเต็มกระเป๋า ซื้ออาหารกินตลอดเวลา แต่ลูกคนจนมีกินตามที่เรากำหนดไว้ เพราะต้องเลี้ยงต้นไม้ทุกต้นให้มีวินัย มะนาวนอกฤดูที่ปลูกในดินทราย สามารถบังคับให้มีผลผลิตนอกฤดูได้ผลดีมากกว่าวิธีอื่น หากบังคับให้ต้นไม้อดน้ำในภาวะแล้ง ประมาณเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกหนักที่สุด
พิธีกร : มะนาวต้องการน้ำมากแค่ไหน?
รศ.ดร. รวี : ต้นมะนาวต้องการน้ำมากในช่วงที่ผลิใบ และช่วงขยายลูก เซลล์พืชทุกชนิดขยายได้โดยแรงดันของน้ำภายในเซลล์ ขณะที่ยังอ่อนอยู่ ผนังเซลล์พืชจะบาง เมื่อต้นไม้ดูดน้ำเข้าไป แรงดันของน้ำภายในเซลล์จะไปดันให้ผนังเซลล์ยืดออก จึงควรให้น้ำอย่างถูกจังหวะ หากต้นมะนาวขาดน้ำ จะไม่โอกาสได้มะนาวลูกโต เจ้าของสวนมะนาว อย่าหวังพึ่งเทวดา ควรใส่ใจบำรุงดูแลตามระยะการเติบโตของต้นไม้
พิธีกร : ขยายพันธุ์มะนาวอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?
รศ.ดร. รวี : ที่ผ่านมาเกษตรกรจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิด คิดว่า กิ่งปักชำไม่ดี สู้กิ่งตอนไม่ได้ ความจริงเรื่องนี้มีเหตุผลบังภูเขาแค่นิดเดียว เวลาปักชำกิ่ง เกษตรกรนิยมใช้กรรไกรตัดกิ่ง ซึ่งด้านหนึ่งของกรรไกรมักมีส่วนคมมีดที่มีขางัดอยู่อีกด้านหนึ่ง เมื่อนำกรรไกรไปใช้งาน มักทำให้เปลือกกิ่งฉีกและบอบช้ำ ทำให้กิ่งชำออกรากเพียงแค่ซีกเดียว แถมเชื้อโรคเข้าได้ง่าย จึงมีเปอร์เซ็นต์การรอดต่ำ
ปัจจุบัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาไม้ผลเขตร้อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หันมาส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนากิ่งพันธุ์มะนาว ด้วยวิธีการปักชำ โดยแนะนำว่า หลังจากใช้กรรไกรตัดกิ่งเสร็จ ให้นำมีดคัตเตอร์ปาดส่วนโคนที่บอบช้ำทิ้ง และใช้ฮอร์โมนเข้าไปช่วย ประมาณ 2,000 พีพีเอ็ม เพียงเท่านี้ กิ่งชำจะมีเปอร์เซ็นต์อัตรารอดที่สูงมาก เกษตรกรที่นำแนวคิดไปลองใช้ ต่างยืนยันว่า ต้นมะนาวที่ปลูกด้วยกิ่งชำได้ผลดีกว่าการปลูกด้วยกิ่งตอน สำหรับเทคนิคนี้ เกษตรกรสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำกิ่งชำพืชได้ทุกชนิด
ต่อมา พิธีกร หันไปขอความรู้เรื่องการปลูกมะนาว จาก คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร ซึ่งสะสมความรู้เรื่องการปลูกมะนาวกว่า 10 ปี แถมจังหวัดพิจิตร ยังเป็นแหล่งปลูกมะนาวที่ใหญ่สุดในประเทศไทย
คุณทวีศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสนำพันธุ์พืชหลายชนิดมาปลูกทดสอบเพื่อค้นหาต้นตอสำหรับขยายพันธุ์มะนาวที่ได้ผลดีที่สุด เช่น ทดลองใช้ต้นตอมะกรูดเพื่อเสียบยอดมะนาว ปรากฏว่า ไม่โต พันธุ์มะนาวพันธุ์แป้นรำไพที่เสียบยอดบนต้นตอส้มทรอยเยอร์ (Troyer) มีเปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตมากที่สุด
สาเหตุที่ผมสนใจค้นหาต้นตอสำหรับปลูกมะนาว เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหามหาอุทกภัยในปี 2554 เกษตรกรที่ปลูกมะนาวในพื้นที่อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ที่ปลูกโดยใช้กิ่งตอน เจอน้ำท่วมขังเพียงไม่กี่วัน ต้นมะนาวยืนต้นตายเกือบทั้งหมด แต่เกษตรกรที่ปลูกต้นมะนาวโดยใช้กิ่งเสียบยอดบนต้นตอส้มต่างประเทศรอดตายหลายราย เนื่องจากมีระบบรากที่แข็งแรง (กรุณาติดตามอ่าน "มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 3 ได้ในฉบับหน้า)
วันที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 552 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง... มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 3
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ในฉบับนี้ เป็นบรรยากาศการพูดคุยบนเวทีสัมมนา ในหัวข้อ "แนวทางการปลูกมะนาวให้ได้ผลดี" ซึ่ง คุณวิสุทธิ์ สุวรรณมณี ทำหน้าที่เป็นพิธีกรพูดคุย เรื่องการปลูกมะนาวกับวิทยากรรับเชิญ จำนวน 4 ท่าน ได้แก่ รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร คุณทวิน แจ้งจันทร์" และ คุณช่อทิพย์ ศิริพันธุ์ หรือ "เจ๊เล็ก" ผู้ค้ามะนาวรายใหญ่จากตลาดไท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คุณทวีศักดิ์ : ตอนนี้ คนไทยโดยทั่วไป นิยมปลูกมะนาว กลุ่มตระกูลแป้นมากที่สุด เพราะมีน้ำเยอะ เปลือกบาง น้ำหอม เช่น แป้นรำไพ แป้นเอี่ยมเซ้ง แป้นดกพิเศษ ฯลฯ แต่หารู้ไม่ว่าคุณสมบัติเด่นเหล่านี้กลับเป็นพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรคเช่นเดียวกัน
ผมมีพื้นที่ปลูก 80 ไร่ ที่พิจิตร ใช้เป็นสถานที่ศึกษาให้ความรู้เรื่องสายพันธุ์ไม้ มะนาวก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราปลูกและจำหน่ายด้วย ที่ผ่านมา ผมไปซื้อกิ่งส้มพันธุ์ดีมาปลูกในพื้นที่ภาคกลาง ปรากฏว่า รสเปรี้ยวมาก จึงตัดสินใจตัดทิ้งและเอามะนาวแป้นมาเสียบแทน จำนวน 200 ต้น ช่วงที่ไม่มีน้ำท่วม ตอเก่าผุ ก็มีรากที่เกิดขึ้นมาใหม่ เสริมเป็นขาเต็มไปหมดเลย วันที่ 22 กันยายน 2554 ที่พิจิตรเจอปัญหาน้ำท่วมเป็นเดือน ต้นมะม่วง มะละกอ ตายหมด แต่มะนาวรอด เพราะเสริมขาเข้าไป ตอนนี้ทางชมรมใช้กิ่งพันธุ์มะนาวเสียบยอดบนต้นตอส้มต่างประเทศ เช่น เสียบยอดบนต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่า ต้นตอทรอยเยอร์ และต้นตอสวิงเกิล
เทคนิคในการเสียบยอดให้ใช้ต้นตอส้มทรอยเยอร์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 เซนติเมตร ตัดยอดต้นตอส้มให้สูงจากพื้นดิน ประมาณ 15 เซนติเมตร จากนั้นนำกิ่งมะนาวพันธุ์แป้นรำไพหรือแป้นดกพิเศษเสียบยอด ด้วยวิธีการผ่าลิ่มให้แผล มีความยาว ประมาณ 1 นิ้ว ใช้เวลาประมาณ 45 วัน ยอดที่เสียบจะแตกยอดใหม่ออกมา
การปลูกมะนาวเชิงพาณิชย์ในปัจจุบันนี้ ตลาดมีความต้องการมะนาวพันธุ์แป้นรำไพและพันธุ์แป้นดกพิเศษมากที่สุด และการเลือกใช้กิ่งพันธุ์มะนาวได้เปลี่ยนจากการใช้กิ่งตอนมาใช้กิ่งเสียบยอดบนต้นตอส้มต่างประเทศได้ผลดีมาก เพราะช่วยให้ต้นมะนาวมีความแข็งแรง สมบูรณ์ ให้ผลดก และมีอายุยืนยาวกว่าปลูกด้วยกิ่งตอน
ส่วนกรณีที่หลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า ผลผลิตมะนาวที่ปลูกบนต้นตอส้มต่างประเทศจะมีรสชาติและคุณภาพเปลี่ยนไปนั้น ผมยืนยันว่า ไม่มีความแตกต่างแต่ประการใด เพราะผมเคยทดลองปลูกมะนาวพันธุ์แป้นดกพิเศษด้วยวิธีการเสียบยอดบนต้นตอส้มทรอยเยอร์ ปรากฏว่า ได้ผลมะนาวที่มีคุณภาพเหมือนกับมะนาวแป้นรำไพทุกประการ เช่น ผลใหญ่เปลือกบาง น้ำมาก และมีกลิ่นหอม และพบว่า ต้นมะนาวที่ปลูกบนต้นตอส้มต่างประเทศสามารถบังคับให้ออกดอกติดผลได้เร็ว ตั้งแต่ต้นมะนาวมีอายุเพียง 8 เดือน ถึง 1 ปี เท่านั้น
พิธีกร : ในทางวิชาการ การปลูกมะนาวในต่างประเทศนิยมใช้ต้นตอชนิดใดบ้าง
รศ.ดร. รวี : เมืองไทย ใช้ต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่า กับการปลูกส้มโอ ส้มเขียวหวาน และส้มโชกุน ปรากฏว่า ได้ผลผลิตประเภท ส้มไหว้เจ้าทั้งนั้นเลย สำหรับต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่าในต่างประเทศ นิยมใช้กับกลุ่มเลมอน ที่มีรสเปรี้ยว เมื่อนำมาใช้กับส้มเพื่อการบริโภคคือ ส้มเกลี้ยง ปรากฏว่า ทำให้คุณภาพของส้มลดต่ำลง เพราะมีเปลือกหนาและได้น้ำน้อย สีของน้ำซีดลง
คุณทวีศักดิ์ : ผมขอเสริม ดร. รวี สักหน่อย การนำต้นตอส้มต่างประเทศมาใช้กับมะนาว เนื่องจากต้องการให้ต้นมะนาวมีอายุยืนขึ้น ระยะแรกที่ใช้ต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่า ปรากฏว่ามะนาวแป้นได้รับอิทธิพลจากต้นตอชนิดนี้พอสมควร โดยมีลักษณะผลบวม ใหญ่ ไม่แป้น มีผิวขุระ แต่เมื่อปลูกทดลองไปเรื่อยๆ ก็พบว่า ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น สำหรับแป้นดกพิเศษ ความจริงก็คือ แป้นที่กลายพันธุ์มา
คนในวงการมะนาวก็รู้ว่าตลาดซื้อ-ขาย มะนาว เป็นไซซ์ สำหรับมะนาวแป้นดกพิเศษ จะคัดได้ไซซ์ใหญ่เยอะ ผมยืนยันได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่า หรือต้นตอทรอยเยอร์ ที่ปลูกมาได้ 5 ปี ผลผลิตยังอยู่ดี แต่การเสียบมะนาวบนตอมะขวิด มีปัญหาแน่ เพราะได้ต้นเตี้ยๆ เหมือนกับไม่สอดรับกัน
รศ.ดร. รวี : เคยมีรายงานผลการใช้ต้นตอโวคาเมอเรียน่ากับส้ม พบว่า ในช่วงที่กักน้ำนาน เมื่อขึ้นน้ำ ต้นจะเกิดอาการยางไหลออกมา ส่วนการใช้ตอต้นมะขวิดในส้มเช้ง ส้มโชกุน พบว่า สภาพต้นอายุ 14-16 ปี ยังอยู่ได้ คุณภาพผลผลิตดี ทรงพุ่มประมาณเมตรเศษๆ สามารถปลูกระยะประชิดได้ แต่การใช้ต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่ากับมะนาว ผมยังไม่มีข้อมูล
คุณทวีศักดิ์ : สาเหตุที่เรานำต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่ามาใช้ เนื่องจากเคยมีการทดลองใช้ตอโวคาเมอเรียน่ากับส้มเขียวหวานปลอดโรค ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของศูนย์วิจัยพืชน่าน ในสังกัดกรมวิชาการเกษตร นักวิชาการเจ้าของโครงงานทดลองดังกล่าวเคยมาเยี่ยมชมแปลงปลูกมะนาวของผม ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะเคยใช้ตอเลมอน แต่ไม่เคยใช้เป็นต้นตอทดสอบทางวิชาการกับมะนาวเลย
รศ.ดร. รวี : ผมเคยแนะนำนักวิชาการของกรมวิชาการเกษตร ให้ลองนำต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่ามาทดสอบกับต้นมะนาวเช่นกัน ที่ผ่านมาเคยมีสวนส้มแห่งหนึ่ง อยู่ที่อำเภอโพนพิสัย เป็นแปลงปลูกส้มเขียวหวานปลอดโรค ใช้ต้นตอส้มโวคาเมอเรียน่า ปรากฏว่า งดให้น้ำไป 4 เดือน ต้นส้มยังไม่ยอมเหี่ยว ในที่สุดได้ผลผลิตเป็นส้มไหว้เจ้าทั้งหมดเลย จึงต้องรื้อสวนทิ้งไปทั้งหมด
พิธีกร แนะนำวิทยากรอีก 2 ท่าน คือ "คุณทวิน แจ้งจันทร์" และ คุณช่อทิพย์ ศิริพันธุ์ หรือ "เจ๊เล็ก" สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมะนาว จากอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และเป็นผู้ค้ามะนาวรายใหญ่ในตลาดไท พิธีกรขอให้คุณทวินและเจ๊เล็กช่วยเล่าประสบการณ์การปลูกและค้ามะนาว ในช่วงที่ผ่านมา
คุณทวิน : ผมทำสวนมะนาวควบคู่กับขายมะนาว เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ ร้านเล็กแว่นมะนาว ผมเริ่มต้นขายมะนาวที่ปากคลองตลาด เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน และผมเคยขายมะนาวที่ตลาดสี่มุมเมือง บางใหญ่ซิตี้ แต่ทุกวันนี้ ผมมีแผงขายมะนาวอยู่ที่ตลาดไท เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ ขณะที่ปากคลองตลาด รถใหญ่วิ่งเข้าตลาดได้ยาก
ตั้งแต่ผมทำกิจการค้ามะนาวมา ผมไม่เคยนึกเสียใจ เพราะแต่ละปี มะนาวมีปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคามะนาวตกต่ำไม่เกิน 2 เดือน มะนาวนับเป็นไม้เงินไม้ทองของเกษตรกร ไม่มีต้นไม้ชนิดใดสู้ราคามะนาวได้เลย ผมยืนยันได้ ราคามะนาวกินขาด 100%
มะนาวแป้น ไม่มีคำว่า ล้นตลาด เพราะมะนาวแป้นสามารถแปรรูปได้หลายชนิด และเก็บใส่ห้องเย็นได้ หากใครปลูกมะนาว ผมบอกได้เลยว่า ท่านมาถูกทางแล้ว มะนาวเป็นพืชชนิดเดียวที่ไม่เคยทำให้เกษตรกรผู้ปลูกเสียใจ หากเปรียบพระดี ต้องเป็นรุ่นเบญจภาคี มะนาว ก็ถือเป็นพืชในตระกูลพืชเบญจภาคีเช่นเดียวกับ พริก หอม กระเทียม ตะไคร้ ที่มียอดขายดีติดตลาดตลอดเวลา คนที่มาซื้อของในตลาด 90% จะต้องมีผลมะนาวอยู่ในถุง เพราะเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ในทุกครัวเรือน
คนไทยส่วนใหญ่นิยมใช้มะนาวพันธุ์แป้น เพราะติดใจในรสชาติความหอม เกษตรกรจึงเลือกปลูกพันธุ์มะนาวแป้นเป็นหลัก สมัยก่อนแหล่งปลูกมะนาวอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว สามพราน ตลิ่งชัน บางมด ส่วนรังสิตปลูกมะนาวกลมพันธุ์บางมด แต่การปลูกมะนาว เมื่อปลูกซ้ำๆ ที่เดิม มักเกิดปัญหาเชื้อรา ต้นมะนาวเป็นโรคใบแก้ว จึงต้องย้ายพื้นที่ปลูกไปต่างจังหวัด เมื่อผมไปส่งเสริมปลูกมะนาว ปรากฏว่าเกษตรกรบางรายกลัวว่า ปลูกมะนาวแล้วจะขายไม่ได้ ผมก็ต้องปลูกเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรทำตาม ว่าการปลูกมะนาวแล้ว มีรายได้ดีกว่าการทำนา ปลูกอ้อย และลำไย
ทุกวันนี้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรและตาก ก็หันมาปลูกมะนาวกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งแหล่งดังกล่าวนิยมปลูกมะนาวในลักษณะแปลงยกร่องเพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากต้นมะนาวขาดน้ำไม่ได้ การรักษาคุณภาพมะนาวที่ดีที่สุด ต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก ใช้เวลาปลูกและดูแลมะนาวให้เติบโตสมบูรณ์ก่อน อย่างน้อย 2 ปี จึงค่อยเก็บผลผลิตที่มีคุณภาพดีออกขาย
ปัจจุบัน ผมมีลูกไร่ที่ปลูกมะนาว ประมาณ 4,000-5,000 ไร่ ร้านของเราบริหารจัดการมะนาวอย่างครบวงจร ตอนนี้ผมทำงานอยู่เบื้องหลัง กระจายหน้าที่ให้ทีมงานคอยดูแลเป็นแผนกต่างๆ เช่น ฝ่ายสวน ฝ่ายตลาด ฝ่ายจัดซื้อสินค้า ฝ่ายขนส่งสินค้า ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เคยปิดร้านเลย
พิธีกร : อยากให้เจ๊เล็กช่วยเล่าว่า ตลาดการค้ามะนาวที่ตลาดไทว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน
เจ๊เล็ก : ดิฉันมีประสบการณ์ในการขายมะนาว ที่ตลาดไทและปากคลองตลาดมานานถึง 30 ปี คนปลูกมะนาวต้องถามแม่ค้าว่า รับซื้อมะนาวพันธุ์อะไร คุณอย่าซี้ซั้วปลูกมะนาวเด็ดขาด เพราะปลูกผิดไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ก็เสียทั้งเวลาและขายไม่ได้เงินแน่นอน พันธุ์มะนาวที่แม่ค้าไม่รับซื้อคือ มะนาวเนื้อสีส้ม ทางตลาดไม่ยินดีต้อนรับ หากต้องการปลูกมะนาวขาย ต้องใช้พันธุ์มะนาวที่ตลาดต้องการ คือมะนาวแป้นธรรมดา แป้นรำไพ และมะนาวไร้เมล็ด
(ติดตามอ่าน "มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 4 ได้ในฉบับหน้า)
หน้า 92
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 553 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" (ตอนที่ 4)
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
สำหรับฉบับนี้ ยังคงนำเสนอบรรยากาศการเสวนาในหัวข้อ "แนวทางการปลูกมะนาวให้ได้ผลดี" ซึ่ง คุณวิสุทธิ์ สุวรรณมณี ทำหน้าที่เป็นพิธีกรพูดคุยเรื่องตลาดการค้ามะนาวกับ คุณช่อทิพย์ ศิริพันธุ์ หรือ "เจ๊เล็ก" ผู้ค้ามะนาวรายใหญ่จากตลาดไท และซักถามเกี่ยวกับเทคนิคการปลูกมะนาวนอกฤดูกับ รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ดังต่อไปนี้
เจ๊เล็ก : หากเกษตรกรอยากขายมะนาวได้ราคาดี ควรถามคนขายว่า อยากได้พันธุ์อะไร เพราะทุกวันนี้มีมะนาวไม่กี่พันธุ์ที่ขายได้ ดิฉันขายมะนาวมา 30 ปี แต่รู้เรื่องเทคนิคการปลูกดีกว่าคนปลูกมะนาวบางราย เพราะแต่ละวันมีเกษตรกรมาปรับทุกข์เรื่องเจอโรคแคงเกอร์จำนวนมาก เกษตรกรบางรายก็บอกเล่า เทคนิคกำจัดโรคแคงเกอร์ที่น่าสนใจ ดิฉันก็บอกต่อข้อมูลดีๆ เหล่านี้ให้เกษตรกรรายอื่นทดลองนำไปใช้ สามารถแก้ไขปัญหาแคงเกอร์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ในช่วงฤดูฝน แผงมะนาวของดิฉันที่ตลาดไทสามารถขายมะนาวได้วันละ 1,200 กระสอบ โดยทั่วไป มะนาวที่ขายแบ่งเป็น 6 เบอร์ คือ เบอร์ 3-4-5-6-7 และเบอร์พัน ส่วนมะนาวหลง ไม่คิดเป็นเบอร์ จะเอามะนาวหลงมารวมกันและชั่งกิโลขาย คุณคิดเองแล้วกันว่า ดิฉันขายมะนาววันละ 700-800 กระสอบ อะไรก็ได้ที่เป็นลูกมะนาว ดิฉันขายได้หมด ฤดูแล้ง มะนาวแป้นมีจำนวนน้อยก็ต้องซื้อมะนาวตาฮิติมาขาย
สำหรับมะนาวแป้นพิจิตร ที่เพิ่งเปิดตลาดได้แค่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ขายไม่ได้ เพราะมันเหม็นเขียว เนื่องจากมีผิวหนา หากใครอยากขายมะนาวได้ดีทุกวัน ขอแนะนำให้ปลูกแป้นธรรมดา แป้นรำไพ และพันธุ์แป้นดั้งเดิม หากใครปลูกมะนาวที่มีคุณภาพ ส่งมาขายที่ดิฉันได้เลย รับซื้อไม่อั้น สำหรับธุรกิจการค้ามะนาวที่ตลาดไทในขณะนี้ มีแผงค้ามะนาวขนาดใหญ่ 23 แผง แผงเล็ก 20 แผง ซึ่งรับซื้อมะนาวจากแผงใหญ่ เพื่อนำมาขายปลีก สำหรับดิฉันเป็นผู้ค้าแผงใหญ่ และใหญ่กว่าใครทั้งหมด
พิธีกร : มะนาวที่ขายในตลาดไท มาจากไหนครับ
เจ๊เล็ก : ส่วนใหญ่เป็นมะนาวจากจังหวัดพิจิตร สำหรับมะนาวจากจังหวัดเพชรบุรี อำเภอสามพราน อำเภอบ้านแพ้ว มีไม่เยอะ เพราะราคาที่ดินแพง เมื่อเกษตรกรขายที่ดินย่านสามพรานได้ 10 ไร่ ก็จะไปซื้อที่ดินผืนใหม่ ที่จังหวัดพิจิตรเพื่อปลูกมะนาวได้ถึง 100 ไร่ ทุกวันนี้สวนมะนาวส่วนใหญ่ของพิจิตร เจ้าของเป็นคนต่างถิ่นทั้งนั้น
พิธีกร : ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ราคามะนาวเป็นอย่างไรบ้างครับ
เจ๊เล็ก : มีช่วงมะนาวราคาถูก แค่ 3 เดือนเท่านั้น มีช่วงราคาปานกลางอีก 4 เดือน และช่วงมะนาวราคาแพงสุดประมาณ 3 เดือน ราคามะนาวปีนี้ถือว่าไม่ถูก เพราะมีราคาต่อผลอยู่ที่ 1 บาทขึ้นไป ราคาไม่อ่อนตัวอยู่ที่ระดับ 20-30 สตางค์ ถือว่าราคามะนาวในปีนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจสำหรับชาวสวน
ดิฉันบอกได้เลยว่า ชาวสวนมะนาวรวย แต่ไม่แสดงตน เพราะแต่ละเดือน ชาวสวนเก็บมะนาวออกขาย 2 รอบ ครอบครัวดิฉันมีพี่น้องปลูกมะนาว 600 ไร่ ที่ผ่านมา พี่น้องบางคนทำนาข้าวอย่างเดียวมีรายได้ปีละ 30,000-40,000 บาทเท่านั้น แถมบางปีไม่มีรายได้เลย ดิฉันถามว่า ทำไมไม่ปลูกมะนาว เขาก็บอกว่า กลัวไม่มีคนซื้อ ดิฉันให้พี่สาว 2 คน หันมาปลูกมะนาวขาย ปรากฏว่า มีรายได้ดี มีทั้งบ้าน ทั้งรถ ในที่สุดก็เลิกทำนาหันมาปลูกมะนาวขายอย่างเดียว
มะนาว ถือเป็นธนาคารอย่างดีของคุณ หากคุณไม่มีเงิน ก็เดินไปในสวนมะนาว เก็บมะนาวมา 10 กระสอบ ขายได้เงินเป็นหมื่นแล้ว มะนาวที่ร่วงใต้ต้น กวาดเก็บมาขายได้ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท ทุกอย่างขายได้หมด หากเป็นช่วงหน้าแล้ง สามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 80 บาท ช่วงมะนาวราคาถูก 20-30-80 บาท ยังมีรายได้หลักหมื่น แต่ในช่วงมะนาวราคาแพง มีรายได้เป็นหลักล้าน สวนมะนาวของน้องชายดิฉันเก็บขายในช่วงหน้าแล้งประมาณ 300 กระสอบ ขายกระสอบละ 1,500 บาท เก็บขาย 3 วัน รายได้เท่าไหร่ ลองคำนวณดู
หากเกษตรกรรายใดมั่นใจว่าผลผลิตของตัวเองมีคุณภาพพอ ขนมาขายที่แผงดิฉันได้เลย สัญญาว่าจะรับซื้อหมด แต่ถ้าไม่มีคุณภาพไม่ต้องมาให้เสียเวลา เกษตรกรไม่ควรปลูกมั่วๆ เพราะตลาดจะเป็นผู้เลือกเอง หมายความว่าถ้าอยากจะปลูกอะไรให้เดินไปดูที่ตลาดก่อนว่าส่วนใหญ่ผู้บริโภคต้องการอะไร ไม่เช่นนั้นหากปลูกผิดไปแล้วขายไม่ได้ ต้องตัดทิ้งแล้วจะเสียใจ
ในฐานะที่ดิฉันเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ขาย ขอสรุปว่า หัวใจหลักสำหรับคนสนใจปลูกมะนาวคือ ต้องอดทนในการดูแลรักษาผลผลิตของตัวเอง อย่าลืมพูดคุยกับแม่ค้าว่าตลาดที่แท้จริงเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือต้องซื่อสัตย์ต่อกันและกัน เป็นต้นว่า มะนาวไม่มีน้ำไม่ควรเก็บมาขาย เพราะสินค้าตลาดจะมีคุณภาพหรือไม่ก็อยู่ตรงนี้
พิธีกร : สูตรสำเร็จในการปลูกมะนาวนอกฤดู
รศ.ดร. รวี : การผลิตมะนาวนอกฤดูให้ประสบผลสำเร็จนั้น ไม่มีสูตรสำเร็จรูป เกษตรกรควรเข้าใจถึงหลักธรรมชาติของต้นมะนาวเป็นอย่างดีเสียก่อน รวมทั้งมีการจัดการด้านเขตกรรมต่างๆ อย่างถูกต้อง เมื่อเกษตรกรเข้าใจหลักการ และผสมผสานร่วมกันระหว่างการจัดการน้ำ การใช้สารกลุ่มชะลอการเจริญเติบโตพืช การปฏิบัติการจัดการทรงพุ่ม การจัดการด้านธาตุอาหาร ฯลฯ การจัดการสวนมะนาวให้มีผลผลิตนอกฤดู ก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงตามไปด้วย ปัจจุบันศูนย์วิจัยและพัฒนาไม้ผลเขตร้อน มีหลักสูตรอบรมการผลิตมะนาวนอกฤดู ที่จัดอบรมติดต่อกันมากว่า 20 รุ่นแล้ว หากใครสนใจก็ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร. (034) 351-934
การดูแลจัดการสวนมะนาวให้มีผลผลิตนอกฤดูนั้น ปัจจัยสำคัญที่ต้องดูแลเอาใส่ใจ ได้แก่
1. ยอดหรือกิ่งมะนาวที่จะสร้างตาดอกได้ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วันขึ้นไป
2. มะนาวจะไม่มีการออกดอกในกิ่งที่มีการติดผลอยู่ ดังนั้น หากต้องการให้กิ่งมีการออกดอกในช่วงที่ต้องการตามที่กำหนดไว้ ก็จำเป็นจะต้องกำจัดดอกหรือผลอ่อนในกิ่งเหล่านั้นออกไปให้หมดเสียก่อน
โดยทั่วไป แต่ละปี ต้นมะนาวจะมีผลผลิตออกตามฤดูกาลได้ถึง 2 ครั้ง ระยะแรก (วงจรที่ 2) ต้นมะนาวมีการออกดอกในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน ผลมะนาวที่นำมาใช้ประโยชน์จากน้ำคั้นได้นับตั้งแต่ออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยวอยู่ระหว่าง 4 เดือนครึ่ง จนถึง 5 เดือนครึ่ง ต้นมะนาวมีดอกชุดสุดท้ายประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ซึ่งผลชุดนี้จะเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป อันเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลปกติ
ต้นมะนาวจะมีดอกที่เป็นชุดใหญ่อีกครั้ง (วงจรที่ 1) ประมาณปลายเดือนมีนาคมและเมษายน เมื่อผ่านช่วงของฤดูแล้งและได้รับฝนติดตามมา การเก็บเกี่ยวของผลมะนาวในรุ่นนี้จะตรงกับช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมและมีการออกดอกมากอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน และเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนธันวาคมและมกราคม อันเป็นช่วงปลายฤดูกาลของมะนาวและราคาของผลมะนาวจึงเริ่มเขยิบตัวสูงขึ้นตั้งแต่ในช่วงนี้เป็นต้นไป ดังนั้น หากชาวสวนต้องการผลิตมะนาวออกนอกฤดู จำเป็นต้องใช้วิธีการยับยั้งช่วงวงจรของการออกดอกครั้งใหญ่ทั้ง 2 นี้ให้ได้
เทคนิคการผลิตมะนาวนอกฤดูแบบต่างๆ จำเป็นที่จะต้องใช้หลายๆ ลักษณะเข้ามาร่วมกัน ได้แก่
1. การปลิดดอกและผลอ่อนของมะนาว มะนาวมีการออกดอกในฤดูกาลใหญ่ 2 ระยะ รวมทั้งกิ่งที่มีผลผลิตติดอยู่ก็ไม่สามารถออกดอกได้อีกด้วย ดังนั้น การที่จะให้ต้นมะนาวออกดอกได้ดีตามต้องการจึงจำเป็นต้องกำจัดดอกและผลอ่อนที่ไม่ต้องการในฤดูกาลนั้นออกทิ้งไปเสียก่อน
การตัดแต่งกิ่งนอกจากจะเป็นการกำจัดดอกและผลอ่อนออกไปได้บางส่วนแล้ว ยังเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้มีการผลิยอดอ่อนใหม่ที่ค่อนข้างสม่ำเสมออีกด้วย ซึ่งไม่ควรตัดลึกมาก ควรจำกัดอยู่ที่ปลายกิ่ง ระดับ 5-10 เซนติเมตร สามารถกำจัดดอกและผลอ่อนที่เหลือโดยใช้สารควบคุมการเจริญเติบโต เช่น NAA เข้มข้น 2,000 ppm พ่นในระยะกลีบดอกโรย และ ethephon 300 ppm ใช้พ่นในระยะดอกบาน รวมถึงผลอ่อนในระยะกลีบดอกโรย การปลิดดอกและผลอ่อนใน วงจรที่ 2 ทำให้ต้นมีการยืดช่วงเวลาออกดอกไปในระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนแทน ซึ่งจะมีผลมะนาวแก่เก็บเกี่ยวได้ช่วงนอกฤดูเดือนมีนาคม-เมษายน
2. การยับยั้งการออกดอกของต้นมะนาวในฤดู สารควบคุมการเจริญเติบโตที่มีชื่อว่า จิบเบอเรลลิกแอซิด (GA3) มีคุณสมบัติช่วยในการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางกิ่งใบในไม้ยืนต้น ใช้พ่นเพื่อยับยั้งการออกดอก
3. การกำจัดใบ ต้นมะนาวที่สมบูรณ์มาก มีพุ่มต้นแน่นทึบ หรือมีลักษณะที่เรียกว่า บ้าใบ การปลิดใบออกบ้างบางส่วน อาจมีผลในด้านการลดระดับไนโตรเจนในต้นให้ลดต่ำลง อันเป็นการช่วยปรับระดับของคาร์บอน (Carbon) ต่อระดับของไนโตรเจน (Nitrogen) หรือที่เรียกว่า ซี/เอ็น เรโช (C/N ratio) ให้สูงขึ้น อาจช่วยให้มีการออกดอกดีขึ้นได้
4. การใช้สารเคมี สารในกลุ่มชะลอการเจริญเติบโต เช่น สารแพคโคลบิวทราโซล มีบทบาทในการยับยั้งการสังเคราะห์ GA ในธรรมชาติของต้นพืช ดังนั้น พืชจึงมีการเจริญทางกิ่งใบลดลง ส่งผลให้มีโอกาสในการออกดอกมากขึ้น
(กรุณาติดตามอ่าน "มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 5 ได้ในฉบับหน้า)
หน้า 80
วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 554 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 5
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ในฉบับนี้ เป็นการเก็บตกบรรยากาศการพูดคุยบนเวทีสัมมนา ในหัวข้อ "แนวทางการปลูกมะนาวให้ได้ผลดี" ซึ่ง คุณวิสุทธิ์ สุวรรณมณี ทำหน้าที่เป็นพิธีกร ซักถามเรื่องเทคนิคการปลูกมะนาวนอกฤดู จาก รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ดังต่อไปนี้
พิธีกร : มีเคล็ดลับการใช้สารแพคโคลบิวทราโซลในสวนมะนาวนอกฤดู ???
รศ.ดร. รวี : สารแพคโคลบิวทราโซล (Paclobutrazol : PBZ) เป็นสารชะลอการเจริญเติบโตของยอด ใช้ได้ผลดีกับต้นมะนาว และนิยมใช้ในกลุ่มไม้ผล เช่น มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงน้ำดอกไม้ และมังคุด ที่มีอายุใบยอดชุดสุดท้ายไม่น้อยกว่า 90 วัน ส่วนมะม่วงพันธุ์หนัก เช่น มะม่วงมหาชนก มะม่วงเขียวเสวย มีอายุใบยอด ไม่น้อยกว่า 120 วัน ช่วยเพิ่มความทนทานต่อความเครียดจากความแล้ง ต้านทานต่อเชื้อราและแบคทีเรียเพิ่มขึ้น
ในทางปฏิบัติ ผมแนะนำให้เกษตรกรใช้สารแพคโคลบิวทราโซลฉีดพ่นต้นมะนาวควบคู่กับการตัดปลายยอด 1-2 ข้อ แต่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของความยาวกิ่ง การตัดยอดนี้เป็นการกระตุ้นให้เกิดการผลิยอดอ่อนขึ้นมาพร้อมกันทั้งต้น ควรตัดระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เพื่อให้ต้นออกดอกในระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เพื่อจะเก็บเกี่ยวผลมะนาวได้ในเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ผลมีราคาสูงสุด
ภายหลังการตัดยอด 15 วัน ใช้สารแพคโคลบิวทราโซล 400 พีพีเอ็ม ที่มีความเข้มข้น 10% อัตรา 80 กรัม ผสมน้ำ 1 ปี๊บ ใช้ฉีดพ่นให้ส่วนยอดจนชื้น ระวังอย่าให้ไหลทิ้ง เพราะสารดังกล่าว จะเข้าไปยับยั้งการเติบโตของระบบรากอย่างรุนแรง การใช้สารแพคโคลบิวทราโซล มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันการผลิใบอ่อนซ้ำซ้อนในช่วงฤดูฝน
หลังตัดยอดอ่อนครบ 60 วัน พ่นสารแพคโคลบิวทราโซลซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ในอัตราความเข้มข้นเท่าเดิม ก่อนจะรดน้ำตามไป จังหวะขึ้นน้ำ จะมีโอกาสได้ตาดอก สิ่งสำคัญก็คือ ปุ๋ยต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยทั่วไประยะเวลาดังกล่าว มักตรงกับช่วงฤดูฝนชุกพอดีเลย ผมจึงบอกว่า การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ที่ใช้ดินทราย จะได้เปรียบมากกว่า มีโอกาสชักต้นมะนาวเข้าสู่ช่วงแล้งได้ง่าย แม้เจอปัญหาฝนตกก็สามารถใช้ผ้าพลาสติกคลุมได้
ส่วนมะนาวที่ปลูกในดินชนิดอื่นก็สามารถทำได้ แต่แปลงปลูกต้องขึ้นลูกฟูก เหมือนกับการยกร่องนั่นแหละ สำหรับพื้นที่ที่มีฝนตกชุก แนะนำให้ขึ้นลูกฟูกอย่างต่ำ ประมาณ 70 เซนติเมตร (เมื่อดินยุบตัวแล้ว) ส่วนพื้นที่ดินทราย หรือทำเลที่ฝนไม่ชุกมาก ขึ้นลูกฟูกแค่ 50 เซนติเมตร ก็เพียงพอ
พิธีกร : หลักการใช้ปุ๋ย สำหรับปลูกมะนาวนอกฤดู
รศ.ดร. รวี : ในตำราวิชาการหลายเล่ม มักแนะนำให้ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 18-24-24 ที่ผ่านมา นักวิชาการจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่า ปุ๋ยตรงตัวกลาง คือ ฟอสฟอรัส ทำหน้าที่สร้างตาดอก ผมเอาคอเป็นประกันได้เลยว่า ไม่เคยมีตำราเล่มไหนในโลกที่ยืนยันได้ว่า ฟอสฟอรัสทำหน้าที่สร้างตาดอกในไม้ผลยืนต้น ขณะที่โพแทสเซียมทำหน้าที่เป็นตัวช่วยสะสมอาหาร ช่วยลำเลียงอาหารไปให้ตำแหน่งที่พืชต้องการใช้
ผมไม่เคยแนะนำให้ใครใช้ปุ๋ย สูตร 18-24-24 หรือปุ๋ยสูตรเสมอ ที่ผมเรียกว่า เป็นปุ๋ยสูตรสิ้นคิด นึกอะไรไม่ออก ก็ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอไว้ก่อน ปุ๋ยที่ผมแนะนำให้เกษตรกรเลือกใช้คือ ปุ๋ยสูตรที่โยกหน้าและโยกหลังสูงเท่านั้นเอง
หลังจากตัดยอดให้ใช้ปุ๋ยสูตรโยกหน้าคือ ปุ๋ยที่มีไนโตรเจน ตรงกลางต่ำ โพแทสเซียมปานกลาง หากนำมาใช้เมื่อไหร่ก็จะช่วยกระตุ้นใบอ่อนให้เกิดขึ้น รวมทั้งช่วยขยายผล เมื่อต้นมะนาวมีดอกบาน ผมจะใช้ปุ๋ยโยกหน้าตลอด เพราะมะนาวมีรสเปรี้ยว ไม่ใช่ต้องการรสหวานเหมือนมะม่วง ส่วนปุ๋ยโยกหลังคือ มีปริมาณโพแทสเซียมสูง ตรงกลางต่ำ ตัวหน้าลดลง ควรใช้ก่อนต้นมะนาวออกดอก หรือช่วงกำลังฟอร์มดอก ถ้าเป็นผลไม้ที่ต้องการรสชาติ ควรใช้ปุ๋ยสูตรนี้ก่อนเก็บผลผลิตประมาณ 30-45 วัน
ขอเสริมว่า การปลูกมะนาวนอกฤดู ต้องเน้นประสานการจัดการน้ำ และธาตุอาหารร่วมกัน ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการปลูกมะนาวนอกฤดู นอกจากนี้ อายุใบตั้งแต่ผลิขึ้นมา จะอาศัยอาหารจากลำต้น ในทางวิชาการเรียกว่า ซิงค์ อายุใบประมาณ 25-30 วัน ใบจะเปลี่ยนจากซิงค์ มาเป็นซอส หรือผู้ให้ ใบจะเริ่มสังเคราะห์แสงได้เต็มที่ ผลิตอาหารส่งกลับไปเลี้ยงส่วนอื่นๆ แทน เมื่อต้นมะนาวมีอายุใบประมาณ 30 วัน ควรปรับเปลี่ยนปุ๋ยมาใช้สูตรโยกหลัง
พิธีกร : เจอภาวะอากาศแปรปรวน ควรใช้ปุ๋ยอย่างไร
รศ.ดร. รวี : ปัจจุบัน เราใช้ปุ๋ยกึ่งฮอร์โมนชนิดหนึ่ง เพื่อบังคับพฤติกรรมของต้นไม้ ยกตัวอย่าง หากเกิดกรณีฝนตกชุก ในจังหวะกำลังขึ้นน้ำ มีผลผลิตตูมลงมา ผมแนะนำให้ใช้ปุ๋ย สูตร 0-0-60 เพื่อเบี่ยงเบนพฤติกรรมของต้นไม้ ไม่ให้ขึ้นทรงเป็นยอด รวมทั้งโค่นหักใบด้วย
พิธีกร : การผลิตมะนาวนอกฤดู ควรวางแผนการปลูกอย่างไร
รศ.ดร. รวี : หากปลูกมะนาวในสภาพพื้นที่ที่ไม่ค่อยแตกต่างกัน ควรแบ่งระยะการทำงานออกเป็นชุดๆ โดยมีระยะเวลาห่างกันประมาณ 15 วัน เริ่มตัดยอดชุดแรก ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน อีก 15 วัน ต่อมาจึงค่อยเริ่มทำชุดที่สอง ทยอยทำทีละชุดจนถึงเดือนสิงหาคม เพื่อให้มีผลผลิตออกขายได้ในช่วงฤดูแล้งที่ขายมะนาวได้ราคาแพง ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน สำหรับปีนี้ราคามะนาวแพงจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงเดือนธันวาคม ส่วนใหญ่ยังมีผลมะนาวเต็มต้น มกราคมเริ่มเก็บผลออกขาย และเริ่มมีดอก จะเริ่มเก็บมะนาวชุดใหม่ออกขายได้อีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน
พิธีกร : ปัญหาเพลี้ยไฟ เจอบ่อยในช่วงไหน
รศ.ดร. รวี : ช่วงแตกใบอ่อนมักเจอปัญหาการระบาดของ "เพลี้ยไฟ และหนอนชอนใบ" เพลี้ยไฟจะเข้าทำลายตั้งแต่ยอดอ่อน สังเกตได้จากอาการใบเป็นปื้น ออกสีเงินๆ นอกจากนี้ ยังพบการระบาดในช่วงผลอ่อน อายุ 1 เดือน มะนาวจะมีความอ่อนแอต่อโรคสูง อายุ 2 เดือน ความอ่อนแอจะลดลง ผ่านพ้นเดือนที่ 2 ไปแล้ว มะนาวจะทนทานต่อโรคและแมลงมากขึ้น ก็ไม่เจอเพลี้ยไฟแล้ว
พิธีกร : แนวทางป้องกันโรคแคงเกอร์
รศ.ดร. รวี : เมื่อได้กิ่งพันธุ์มา แนะนำให้ตัดแต่งกิ่ง ให้นำใบและส่วนที่เป็นโรคแคงเกอร์ออกให้หมด นำรากออกมาล้างน้ำ และนำรากไปแช่สารสเตรปโตมัยซิน ความเข้มข้น 500 พีพีเอ็ม ในระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หลังติดตาเข้าไปในแปลง เมื่อตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรคแคงเกอร์เรียบร้อยแล้ว ให้นำไปเผาไฟ เพื่อทำลายเชื้อโรคให้หมดไปจากแปลงปลูก
สำหรับต้นมะนาวที่ปลูกในแปลง หากเป็นโรคแคงเกอร์ก็ต้องตัดแต่งช่วย พุ่มให้โปร่ง เพราะตัวเชื้อโรคจะไหลไปกับน้ำ โดยทั่วไปเวลาลมพัด หนามต้นมะนาว มักครูดเกี่ยว สร้างริ้วรอยแผลเต็มต้นไปหมด กลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้โรคพืชบุกโจมตีได้ง่าย ช่วงหน้าฝน จะมีหนอนชอนใบ บุกโจมตีก่อน หลังจากนั้นจะเจอโรคแคงเกอร์ตามหลังมาเสมอ
สำหรับช่วงหน้าแล้ง ไม่ค่อยเจอปัญหาโรคแคงเกอร์ เพราะไม่มีน้ำเป็นพาหะในการแพร่เชื้อนั่นเอง แต่ช่วงหน้าฝน ขณะที่ต้นมะนาวกำลังผลิใบอ่อน หลังฝนหยุดตกพรำๆ ต้นมะนาวจะมีใบสีเหลืองเต็มไปหมด เกษตรกรควรตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคแคงเกอร์ออกให้ได้มากที่สุด ก็จะช่วยหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อแคงเกอร์ได้ หากสามารถป้องกันไม่ให้โรคแคงเกอร์เข้าสวนจะดีที่สุด
สำหรับพื้นที่ราบลุ่มค่อนข้างลำบากสักนิดนึง เพราะพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ติดๆ กัน เมื่อพายุฝนพัดผ่านสวนก็นำเชื้อแคงเกอร์เข้ามาด้วย แถมระบบน้ำก็เชื่อมต่อกันได้ การแก้ไขโรคแคงเกอร์ทำได้ยาก แม้กระทั่งตัวคอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ก็แก้ไม่ได้
สารปฏิชีวนะอย่างสารสเตรปโตมัยซิน ภาครัฐไม่อนุญาตให้ใช้ทางการเกษตรในแปลงเพาะปลูก อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะแปลงผลิตกิ่งต้นพันธุ์เท่านั้น เนื่องจากเป็นยาประเภทเดียวกับที่ใช้ในมนุษย์ โดยใช้รักษาอาการวัณโรคปอด ปัจจุบัน ทางการแพทย์พบว่า โรคดังกล่าวต้านทานต่อสารสเตรปโตมัยซินถึง 65%
วิธีป้องกันโรคแคงเกอร์ที่ดีที่สุด ต้องอาศัยวิธีเขตกรรม ป้องกันไม่ให้โรคแคงเกอร์เข้าสวน หากโรคแคงเกอร์แพร่ระบาดในสวน ต้องใช้วิธีตัดแต่งกิ่ง และนำกิ่งที่เป็นโรคไปเผาทำลายเชื้อโรคให้หมด ส่วนใบอ่อนที่เป็นโรคแคงเกอร์ ควรใช้สารคอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ทาบริเวณที่มีอาการติดเชื้อ เพื่อไม่ให้บาดแผลลุกลาม นอกจากนี้ พบว่า เชื้อราไตโครเดอม่า สามารถควบคุมโรคแคงเกอร์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ห้ามใช้ร่วมกับสารคอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ ซึ่งเป็นสารกำจัดเชื้อรา เพราะจะทำลายเชื้อราไตโครเดอม่าไปด้วย
(กรุณาติดตามอ่าน "มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า " ตอนที่ 6 ได้ในฉบับหน้า)
หน้า 82
วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 556 |
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 7
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ตอนท้ายก่อนจบการเสวนา เรื่อง "แนวทางการปลูกมะนาวให้ได้ผลดี" คุณวิสุทธิ์ สุวรรณมณี ซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกรได้โอกาสให้ผู้ฟังได้ตั้งประเด็นคำถามกับวิทยากรรับเชิญทั้ง 4 ท่าน ประกอบด้วย คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร คุณทวิน แจ้งจันทร์ คุณช่อทิพย์ ศิริพันธุ์ หรือ "เจ๊เล็ก" ผู้ค้ามะนาวรายใหญ่จากตลาดไท และ รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ดังต่อไปนี้
ประเด็นคำถาม : ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปุ๋ยหน้าสูง หลังสูง
รศ.ดร. รวี : หากเป็นปุ๋ยเคมีที่จำหน่ายในท้องตลาด ปุ๋ยโยกหน้า ได้แก่ สูตร 21-7-14 ซึ่งเป็นสัดส่วน 3:1:2 ส่วนปุ๋ย สูตรหลังสูง ได้แก่ 15-5-20 สัดส่วน 3:1:4 และสูตร 13-13-21 สัดส่วน 2:3:3 ส่วนสูตรที่ผมใช้จริงๆ คือ ใช้ปุ๋ย 15-5-20 จำนวน 4 ส่วน ผสมกับปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 จำนวน 1 ส่วน จะได้ปุ๋ยเคมี สูตร 21:4:16 สัดส่วน 5:1:4 หากผมต้องการปุ๋ยโยกหน้าเมื่อไหร่ จะใช้เพิ่มเนื้อปุ๋ยยูเรียเข้าไป หากใช้ปุ๋ยโยกหลัง จะถอดยูเรียออกไป ใช้ปุ๋ยสูตร 15-5-20 แทน
ประเด็นคำถาม : ปลูกมะนาวในกระถาง ติดผล ต้นไม่โต ใบเหลือง เกิดจากอะไร
รศ.ดร. รวี : ต้นมะนาวมีอาการใบเหลือง เกิดจากขาดน้ำ ขาดปุ๋ย หากน้ำไม่พอ ลูกมะนาวก็ไม่โต
ประเด็นคำถาม : ต้นมะนาวออกดอกแล้วหลุดร่วง เกิดจากอะไร
รศ.ดร. รวี : การออกดอกของต้นไม้ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า จะต้องติดผลเสมอไป ต้นไม้ที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ มักไม่มีโอกาสติดดอกออกผล สำหรับต้นมะนาวที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ จะมีสัดส่วนดอกตัวผู้เยอะ ซึ่งดอกตัวผู้ไม่มีโอกาสติดผล สังเกตได้ ต้นมะนาวที่ใกล้ตาย และไม่มีใบ หากบังคับให้ออกดอก โอกาสติดผลต่ำมาก ผมเคยเจอเอกสารคำแนะนำของบางคน ที่เสนอให้ทำลายใบทิ้ง ถือเป็นความคิดที่งี่เง่าสิ้นดี เพราะใบทำหน้าที่สร้างอาหารโดยการสังเคราะห์แสงเท่านั้น หากทำลายใบทิ้ง จะเอาอาหารที่ไหนมาสร้างดอกที่ดีได้
ประเด็นคำถาม : บางตำราแนะนำให้เก็บเกี่ยวผลผลิต หลังปลูก 8 เดือน ขัดแย้งกับหลักวิชาการหรือไม่
รศ.ดร. รวี : ตอนนี้ต้นมะนาวที่ผมปลูกแค่ 6 เดือน ก็เริ่มไว้ลูกแล้ว หากเส้นผ่านศูนย์กลางได้ 1 เมตร ผมจะเริ่มไว้ลูกแล้ว หลักการก็คือ ต้องให้ต้นไม้ได้รับปุ๋ยอย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยให้ต้นไม้อด หากให้ปุ๋ย 3 เดือนแล้ว และปล่อยเว้นว่าง 3 เดือน ต้นไม้ก็อด
ประเด็นคำถาม : ต้นมะนาวยางไหล จะมีผลต่อมะนาวหรือไม่
รศ.ดร. รวี : อาการยางไหล เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากโรคแคงเกอร์ หรือเกิดจากธาตุอาหารหลายชนิด เกษตรกรควรไล่สาเหตุให้ได้ก่อนว่า ต้นมะนาว เกิดอาการยางไหลจากปัญหาอะไร
ประเด็นคำถาม : กรณีที่นำผลมะนาวไปแช่แข็ง และนำมาคั้นน้ำ จะมีผลต่อคุณภาพน้ำมะนาวหรือไม่
รศ.ดร. รวี : มีผลกระทบแน่นอน เพราะน้ำมะนาวจะไม่ได้คุณภาพ ควรนำผลมะนาวไปคั้นน้ำก่อนนำไปแช่แข็ง จะรักษาคุณภาพได้ดีกว่า
เจ๊เล็ก : ขอแนะนำว่า อย่านำผลมะนาวแช่แข็งเด็ดขาด เพราะดิฉันเคยทดลองทำและขาดทุนเป็นล้านมาแล้ว เพราะความเย็นของอุณหภูมิห้องเย็น ทำให้มะนาวไม่เสีย มีผิวสีเขียว ตอนเช้า นำผลมะนาวออกจากห้องเย็น มาผึ่งเพียงแค่แป๊บเดียว มะนาวสุกเหลืองหมดเลย เมื่อนำไปคั้นน้ำก็เหม็นบูด ใช้ไม่ได้ ต้องวิ่งหาที่ทิ้งมะนาวในตอนเย็น หากใครต้องการเก็บมะนาว ขอแนะนำให้ทำในช่วงมะนาวราคาถูก นำลูกมะนาวมาเก็บล้างทำความสะอาด และผึ่งให้ผลแห้ง จากนั้นนำเข้าเครื่องคั้นน้ำ กรอกน้ำมะนาวใส่ภาชนะที่เตรียมไว้และนำใส่ห้องแช่แข็งทันที ทำให้เสร็จวันต่อวัน หากทำแล้วไม่ใส่ตู้เย็น น้ำมะนาวก็บูด
ประเด็นคำถาม : พื้นที่อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ เหมาะสำหรับปลูกมะนาวหรือไม่
รศ.ดร.รวี : พื้นที่น้ำหนาว มีสภาพอากาศและอุณหภูมิที่เหมาะสม สามารถปลูกมะนาวได้ครับ ส่วนแหล่งที่ไม่เหมาะกับการปลูกมะนาว คือสภาพอุณหภูมิหนาวจัด เพราะมะนาวและพืชเกือบทุกอย่างมีอุณหภูมิวิกฤตในช่วงผลิดอกออกผล คืออุณหภูมิ ประมาณ 35-36 องศาเซลเซียส ขึ้นไป หากดอกบานในช่วงนั้น มักจะไม่ติดผล
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เป็นการเสวนา ในหัวข้อ "รู้ลึกๆ การผลิตมะนาว ให้มีผลผลิตจำหน่าย" โดย อาจารย์ประเวศ แสงเพชร เจ้าของคอลัมม์ "หมอเกษตร ทองกวาว" ทำหน้าที่เป็นพิธีกรพูดคุยกับวิทยากรรับเชิญทั้ง 3 ท่าน ประกอบด้วย คุณศิริชัย จันทร์นาค ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด คุณรัตนพงษ์ ลิ้มทศ เกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จในการผลิตมะนาวแปลงใหญ่ ที่หนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อาจารย์วัง สุขประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ และเป็นประธานกลุ่มอาชีพผู้ผลิตมะนาวนอกฤดู
อาจารย์ประเวศ : ทำไม ราคามะนาวแพงในช่วงแล้ง
คุณศิริชัย : หากดูสถิติราคามะนาวย้อนหลังในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา จะพบว่า ราคามะนาวเริ่มแพงตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงเดือนพฤษภาคม สาเหตุที่มะนาวราคาแพงเนื่องจากมีผลผลิตมะนาวจำนวนน้อยแล้ว เรื่องกิจกรรมท่องเที่ยวในช่วง High Season น่าจะเกี่ยวข้องกับราคามะนาวแพงด้วยเช่นกัน เพราะเดือนมีนาคม-เมษายน มีกิจกรรมท่องเที่ยวเยอะ รวมทั้งมีงานบวชค่อนข้างมาก ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมงานบุญต่างๆ มักมีเมนูอาหาร ลาบ น้ำตก ยำ ส้มตำ ฯลฯ ที่ใช้มะนาวเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารจำนวนมาก
ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ราคามะนาวเริ่มปรับตัวลดลง เพราะตรงกับช่วงเทศกาลเข้าพรรษา และกิจกรรมท่องเที่ยวมีไม่มาก ความจริง ช่วงฤดูของมะนาวตามธรรมชาติ ที่เรียกว่า "มะนาวปี" อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน แต่ช่วงฤดูแล้ง ขายมะนาวได้ราคาแพง จูงใจให้เกษตรกรหันมาผลิตมะนาวนอกฤดูกันอย่างแพร่หลาย สรุปว่า มะนาวแพงในช่วงฤดูแล้ง เพราะตลาดมีความต้องการสูง แต่มีผลผลิตน้อย ผมฟังเจ๊เล็กที่พูดว่า อยากให้เกษตรกรผลิตมะนาวตลอดทั้งปี เพราะไม่เสี่ยง เมื่อเทียบกับการผลิตมะนาวนอกฤดู ความจริง ช่วงมะนาวปี จะมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ถึงจะราคาถูก แต่ไม่ต่ำกว่าบาท หากรวมผลผลิตทั้งปี ก็มีรายได้เยอะก็เป็นโอกาสของคนปลูกมะนาวเหมือนกัน
เมื่อก่อน ผู้ผลิตมะนาว ใช้การผลิตนำการตลาด คือปลูกก่อน ได้ผลผลิตก็ไม่รู้จะขายให้ใคร แต่ปัจจุบันต้องเปลี่ยนใหม่ ใช้การตลาดเป็นตัวนำการผลิต หากใครมีผลผลิตก็ขายที่เจ๊เล็กได้ส่วนหนึ่ง หากใครอยู่ใกล้เพชรบุรี ก็มีที่ให้ขายได้ 2 ตลาด คือตลาดของสหกรณ์การเกษตรท่ายาง และสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด
ปัจจุบัน ปัญหาตลาดมะนาวที่พบก็คือ มะนาวลูกใหญ่จริง แต่เปลือกหนา ไม่ค่อยมีน้ำ เจ๊เล็กบอกว่า ที่ตลาดไท ขายมะนาวหลายเกรด มีตั้งแต่ 6-7 เบอร์ แต่ส่วนใหญ่ที่เพชรบุรีนิยมซื้อขายกัน มีแค่ 3 เบอร์ คือ เบอร์ใหญ่ เบอร์กลาง และเบอร์เล็ก นอกนั้นก็ขายคละเกรดกันไป
จากข้อมูลกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า จังหวัดเพชรบุรี มีพื้นที่ปลูกมะนาว จำนวน 38,500 ไร่ มีผลผลิตมะนาวออกตลอดทั้งปีกว่าแสนตัน โดยสายพันธุ์มะนาวยอดนิยมที่ตลาดต้องการก็คือ มะนาวพันธุ์แป้น ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ในตระกูลมะนาวแป้น ที่ตลาดต้องการมากคือ แป้นรำไพ เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก
มะนาว เป็นพืชที่มีอนาคตไกล เป็นที่ต้องการทั้งตลาดในประเทศและส่งออก เฉพาะช่วงฤดูแล้ง ผลผลิตมีเท่าไหร่ก็ไม่พอขายตลาดในประเทศ มะนาวคละเกรด ขายยกเข่ง เกษตรกรนับลูกขายได้ ราคาขั้นต่ำ 3 บาท บางแห่ง เช่น นครศรีธรรมราช นครราชสีมา แม่ค้าตั้งราคาขายกันเป็นกิโลกรัม ราคายืนพื้นขณะนี้ เกษตรกรก็ทำกำไรได้ ส่วนผู้ซื้อปลายทางอาจต้องควักเงินซื้อในราคาแพงถึงผลละ 5-10 บาท
ปัจจุบัน ช่องทางการขายมะนาว นอกจากมีตลาดเอกชนแล้ว ยังมีตลาดสหกรณ์ ซึ่งเป็นตลาดตัวแทนของเกษตรกร โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง สำหรับจังหวัดเพชรบุรี มี 2 พื้นที่ที่ปลูกมะนาวจำนวนมาก ได้แก่ อำเภอท่ายาง และอำเภอบ้านลาด ส่วนน้องใหม่ก็คือ หนองหญ้าปล้อง ซึ่งเป็นสวนที่เพิ่งเปิดใหม่ บริเวณชายเขาที่สามารถปลูกมะนาวได้ผลดี ซึ่งมีหลายสวนที่สามารถเป็นตัวอย่างได้ ช่วงมะนาวแพง ก็คล้ายมีทองอยู่ในมือ ทุกวันนี้ เกษตรกรผู้ปลูกมะนาวไม่กลัวโรคแคงเกอร์ แต่กลัว "หนอนกระสอบ" ช่วงมะนาวราคา ลูกละ 3-4 บาท มักมีหนอนกระสอบไปขโมยเก็บมะนาวหมดสวน
หากใครคิดอยากจะปลูกมะนาวเป็นอาชีพ ควรเริ่มต้นจากการวางแผนการตลาดล่วงหน้าว่า ปลูกแล้วผลผลิตที่ได้จะนำไปขายที่ไหน ราคาเป็นอย่างไร สายพันธุ์มะนาวที่ตลาดต้องการคืออะไร เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจึงค่อยมาวางแผนปลูกอย่างไรจึงขายได้ราคาดี หากทำก่อนหรือทำแตกต่างจากคนอื่น มักจะได้เปรียบ มะนาว ไม่จำเป็นต้องมีกล่องแพ็กเก็จที่สวยงามเพราะมะนาวเป็นสินค้าที่ขายได้ด้วยตัวมันเอง
ปัจจุบัน เกษตรกรผู้ปลูกมะนาวส่วนใหญ่มีความชำนาญกว่านักวิชาการ เพราะมีประสบการณ์ตรงจากการทำงาน ผมมีโอกาสพูดคุยกับเกษตรกรหลายรายที่มาร่วมฟังเสวนาในวันนี้ พวกเขามีโอกาสทดลองลองผิดลองถูกหลายปีกว่าจะประสบความสำเร็จในการปลูกมะนาวนอกฤดู
(กรุณาติดตามอ่าน " มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 8 ได้ในฉบับหน้า)
หน้า 96
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 557 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 8
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ในฉบับนี้ เป็นช่วงการพูดคุยในหัวข้อ "รู้ลึกๆ การผลิตมะนาว ให้มีผลผลิตจำหน่าย" โดย อาจารย์ประเวศ แสงเพชร เจ้าของคอลัมน์ "หมอเกษตร ทองกวาว" ทำหน้าที่เป็นพิธีกรพูดคุยกับวิทยากรรับเชิญทั้ง 3 คน ประกอบด้วย คุณศิริชัย จันทร์นาค ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด คุณรัตนพงษ์ ลิ้มทศ เกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จในการผลิตมะนาวแปลงใหญ่ที่หนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อาจารย์วัง สุขประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ และเป็นประธานกลุ่มอาชีพผู้ผลิตมะนาวนอกฤดู
คุณศิริชัย : หลายคนสงสัยว่า ทำไมมะนาวดีอยู่ที่เพชรบุรี ทำไมเพชรบุรีเป็นตัวกำหนดราคาตลาดมะนาว เนื่องจากเพชรบุรี มีพื้นที่ปลูกมะนาวเป็นจำนวนมาก มีผลผลิตหลายแสนตัน ส่วนใหญ่จะส่งไปขายที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนมะนาวที่ปลูกในแหล่งอื่นๆ เมื่อถึงช่วงฤดูฝนมักเกิดปัญหาน้ำท่วม ผลผลิตเสียหายหมด นับเป็นความโชคดีของจังหวัดเพชรบุรี ที่ไม่เจอปัญหาน้ำท่วมเหมือนจังหวัดอื่น
นอกจากนี้ ต้นมะนาวไม่ชอบอากาศหนาว เติบโตดีในอากาศร้อน ประมาณ 30 กว่าองศาเซลเซียส และจังหวัดอื่นก็อาจเสียเปรียบเพชรบุรีในเรื่องแหล่งน้ำเหมือนกัน เพราะที่จังหวัดเพชรบุรี อาศัยแหล่งน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ทำให้มีน้ำสำหรับการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี สวนมะนาวของเพชรบุรี ปลูกคล้ายๆ กระทงนาและสูบน้ำขึ้นใส่แปลง ทุกๆ 2 สัปดาห์ ทำให้เพชรบุรีมีมะนาวป้อนเข้าสู่ตลาดตลอดทั้งปี
ที่ผ่านมามีแม่ค้าประจำเข้ามารับซื้อมะนาว 2 ตลาด คือ สหกรณ์บ้านลาด และตลาดกลางหนองบ้วย อำเภอท่ายาง หากใครจะปลูกมะนาว ก็ต้องเตรียมหาตลาดล่วงหน้า เพราะแม่ค้าบางรายในช่วงมะนาวถูก ก็ไม่รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร สำหรับจังหวัดเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็นช่วงมะนาวถูก มะนาวแพง ที่นี่รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรตลอด ปัจจัยเหล่านี้ คือเหตุผลว่า ทำไมเพชรบุรีถึงเป็นตัวกำหนดราคาตลาดมะนาว
ส่วนคำว่า มะนาวเพชรบุรี จริงๆ มาจากมะนาวดำเนินสะดวก มะนาวนครปฐมทั้งนั้นแหละ ตอนหลังมีการออกชื่อออกพันธุ์ใหม่ขึ้นมา แต่ต้นกำเนิดก็มาจากที่เดียวกันเกือบทั้งหมด เนื่องจากสภาพพื้นที่การเพาะปลูกแต่ละแหล่งแตกต่างกัน จึงได้ผลผลิตที่ไม่เหมือนกัน สาเหตุที่มะนาวภาคเหนือไม่ค่อยมีผลผลิตในช่วงหน้าแล้ง เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศ บางพื้นที่เจอภาวะอากาศหนาวนาน แต่ที่เพชรบุรี อาจมีอากาศหนาวไม่เกิน 2-3 วัน ก็เปลี่ยนเป็นอากาศร้อนแล้ว ทำให้มะนาวเกิดดอกได้ง่าย
การบังคับให้ต้นมะนาวออกดอกประมาณช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เพื่อให้มีผลผลิตนอกฤดู ผมคิดว่า ระยะเวลาดังกล่าวต้นมะนาวก็ติดดอกยากเหมือนกันนะ จะทำได้สำเร็จแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับภาวะอากาศเหมือนกัน ช่วงไหนเกิดหนาวนาน ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ต้นมะนาวก็ไม่โต จังหวัดเพชรบุรีอาจได้เปรียบกว่าแหล่งอื่น ในเรื่องภาวะอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของต้นมะนาวนั่นเอง
มะนาวเพชรบุรี มีจุดเด่นในเรื่องน้ำดี แถมมีกลิ่นหอมด้วย หลายคนสงสัยว่าเกิดจากอะไร ความจริงก็เกิดจากปัจจัยเรื่องแหล่งน้ำนั่นแหละ น้ำที่ใช้ในสวนมะนาวมาจากแหล่งน้ำที่สะอาด ซึ่งตามประวัติศาสตร์ รัชกาลที่ 5 เคยมีพระราชดำรัสว่า น้ำของจังหวัดเพชรบุรี มีรสชาติดีที่สุดและอร่อยที่สุด ปัจจุบันในพระบรมมหาราชวังก็ใช้น้ำจากแหล่งนี้เช่นกัน นอกจากนี้ ผลไม้ต่างๆ ที่ปลูกในแหล่งนี้ก็มีชื่อเสียงด้านรสชาติความอร่อย เช่น ชมพู่เพชร มะนาวแป้น เมืองเพชรบุรี กล้วยหอมท่ายาง เพชรบุรี ฯลฯ
แหล่งปลูกมะนาวคุณภาพดี ส่วนใหญ่อยู่แถบพื้นที่ศูนย์สูตร แต่ปัจจุบันอาจปรับเปลี่ยนไปตามสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น หากใครคิดจะปลูกมะนาว ก็ต้องดูสภาพพื้นที่ สภาพอากาศและความพร้อมของแหล่งน้ำ และหาฐานตลาดรองรับผลผลิต
สำหรับราคามะนาวในช่วงฤดูแล้ง เกษตรกรขายมะนาวได้ในราคาลูกละ 3 บาท แต่ผู้บริโภคคนสุดท้ายอาจต้องรับภาระเลือกซื้อมะนาวแพง เพราะบวกต้นทุนค่าขนส่งจากจังหวัดพิจิตรมาถึงตลาดไทลงไปด้วย เมื่อรวมต้นทุนค่าขนส่งอีกหลายทอดจากตลาดค้าส่งไปยังแผงขายปลีก จนถึงมือผู้บริโภคคนสุดท้าย ต้องจ่ายเงินซื้อมะนาวในราคาลูกละ 8-10 บาท
ภาคใต้นิยมขายมะนาวเป็นกิโลกรัม กิโลกรัมละ 60-80-120 บาท ขณะที่ตลาดเพชรบุรีนิยมนับมะนาวขายเป็นร้อย ช่วงหน้าแล้ง ขายมะนาวหมื่นลูก ก็ได้เงิน 3 หมื่นบาท บางครั้งเกษตรกรยังไม่ทันยกมะนาวลงจากรถ แม่ค้าก็มารุมล้อม เพื่อขอซื้อมะนาวทั้งหมด เพราะสินค้าเข้าตลาดน้อยไม่พอขาย
โดยทั่วไปในช่วงฤดูแล้งก่อนเข้าพรรษา มักมีกิจกรรมท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว และมีการจัดเทศกาลงานบุญเยอะมาก จึงต้องการใช้มะนาวในสัดส่วนที่สูงขึ้น แต่ช่วงฤดูมะนาวปี แม้จะมีผลผลิตเข้าตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ค่อยมีกิจกรรมเทศกาลงานบุญ ทำให้ปริมาณการบริโภคมะนาวก็น้อยลงไปด้วย
หากย้อนดูสถิติตลาดมะนาวในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ภาวะราคามะนาวในช่วงหน้าแล้งไม่แตกต่างกันเลย ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม มะนาวมีราคาแพง แต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ราคามะนาวถูก เมื่อถึงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ราคาก็กระเตื้องขึ้นมาหน่อย เดือนธันวาคมราคามะนาวเริ่มแพงขึ้น วัฏจักรราคามะนาวจะปรับตัวในลักษณะนี้ทุกปี จนกระทั่งปี 2555 เกษตรกรขายมะนาว 100 ลูก ขาย 325 บาท ราคาเฉลี่ยลูกละ 3.25 บาท ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็นลูกละ 4 บาท เดือนเมษายนราคาไต่ขึ้นเป็นลูกละ 5 บาท
ผมอยากฝากบอกเกษตรกรว่า หากอยากปลูกมะนาวเชิงการค้า ต้องคอยตรวจสอบข้อมูลการตลาดด้วย ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับเจ๊เล็กว่า หากเกษตรกรแห่ปลูกมะนาวนอกฤดู ทำให้มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ราคามะนาวก็จะถูกเช่นเดียวกับราคามะนาวปี ในช่วงเดือนมิถุนายน มะนาวก็เหมือนคน เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน ควรมีช่วงเวลาพักเหมือนกัน ไม่ใช่ปล่อยให้ท้องมีลูกตลอดทั้งปี ผมอยากย้ำว่า เรื่องการตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ควรวางแผนให้ดีว่า ปลูกแล้ว ผลผลิตที่ได้จะขายที่ไหน ควรวิเคราะห์การตลาดล่วงหน้าไว้ด้วย
อาจารย์ประเวศ : ทำไมถึงสนใจอยากทำสวนมะนาวขนาดใหญ่
คุณรัตนพงษ์ : ผมอายุ 27 ปี เป็นเกษตรกรปลูกมะนาวอยู่ที่อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี ความรู้เรื่องปลูกมะนาวของผมไม่เท่าไหร่ แต่ผมปล้นความรู้เรื่องการปลูกมะนาวมาจาก "คุณพ่อ" ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเรื่องการปลูกมะนาวรายแรกของอำเภอหนองหญ้าปล้อง ปัจจุบันสวนของผมปลูกมะนาวพันธุ์แป้นเกษตรซึ่งอยู่กับอำเภอหนองหญ้าปล้องมากกว่า 20 ปี ตั้งแต่พ่อผมเริ่มปลูกเมื่อปี 2530
ขณะนี้ มะนาวพันธุ์แป้นเกษตร หรือบางคนเรียกว่า แป้นพวง และแป้นพวงวิเศษ กำลังเป็นที่นิยมในจังหวัดเพชรบุรี เกษตรกรส่วนใหญ่ในอำเภอหนองหญ้าปล้องก็นิยมปลูกมะนาวพันธุ์นี้ ปี 2549 ราคามะนาวแพง ทำให้เราฟื้นตัว แค่ปลูกมะนาว 600 ต้น เมื่อต้นมะนาวอายุครบ 3 ปี ก็เริ่มเก็บผลผลิตออกขาย แค่ปีเดียวโกยรายได้ถึง 4 ล้านบาท หลังหักต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็เหลือเงินเก็บ 2 ล้านบาท
เกษตรกรส่วนใหญ่รู้ว่า การปลูกมะนาวในช่วง 1-2 ปีแรก จะไม่มีรายได้เลย ต้องทุ่มเงินดูแลต้นมะนาวเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันการปลูกมะนาวแต่ละท้องที่มีความแตกต่างกัน ตามหลักวิชาการ แนะนำให้ปลูกมะนาวในอัตรา 4x4 เมตร ซึ่งในแง่การปฏิบัติแล้วทำได้ยาก เพราะมีช่องทางเข้าแคบมาก
ผมพบว่า แนวทางการปลูกที่ให้ผลผลิตที่ดีที่สุดในเชิงการค้าคือ ปลูกมะนาวในอัตรา 3x5 เมตร เป็นระยะช่วงต้นห่างกันพอดี ระยะห่างระหว่างแถวก็ดูแลรักษาง่าย ให้สังเกตดู คนไหนที่ปลูกมะนาวระยะแรกปลูกในพื้นที่โล่ง ต้นมะนาวจะโตช้ามาก เพราะต้นมะนาวหากเจอภาวะอากาศร้อนจัด ก็เติบโตไม่ค่อยดี
สำหรับสวนมะนาวที่เพชรบุรี ส่วนใหญ่จะปลูกในสวนกล้วย เนื่องจากปีแรกของการทำสวนมะนาวจะไม่ได้ผลผลิตอะไรเลย เกษตรกรชาวเพชรบุรีจึงนิยมปลูกกล้วยก่อน เมื่อต้นกล้วยเริ่มติดสัก 1-2 เดือน จึงค่อยปลูกต้นมะนาวใส่ระหว่างต้นกล้วย ตามมาตรฐานจะปลูกต้นกล้วยในอัตรา 2x2 เมตร
ต้นมะนาวโดยทั่วไปเมื่อได้ร่มเงาจะแทงยอดแข่งกับต้นกล้วย ทำให้ต้นมะนาวโตไว เมื่อมะนาวเจริญงอกงาม มีกระโดงขึ้นเยอะ ต้นจะพุ่งสูง ก็ต้องทำไม้ค้ำขึ้นไป เมื่อต้นมะนาวอายุครบ 2 ปี จะมีลูกดกมาก เมื่อต้นกล้วยอายุครบ 1 ปี ต้องตัดต้นกล้วยทิ้ง ปีที่ 2 จะเน้นใส่ปุ๋ยสูตรที่มีธาตุไนโตรเจนสูงๆ เพื่อบำรุงต้น ในระยะ 2 ปีแรก ต้องบำรุงให้ต้นมะนาวเจริญเติบโตอย่างเต็มที่เสียก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยจัดการให้ต้นมะนาวมีผลผลิตออกนอกฤดู
โดยทั่วไป ต้นมะนาวจะให้ผลผลิตที่ดี เมื่อมีอายุ 3-4 ปี พอเข้าปีที่ 5 ต้นมะนาวจะเริ่มโทรมแล้ว สำหรับปี 2549 ผมมีรายได้จากการขายมะนาวทั้งปีอยู่ที่ 4 ล้านบาทนั้น เป็นระยะที่ต้นมะนาวจำนวน 600 ต้น มีอายุประมาณ 3-4 ปี ปัจจุบันสวนของผมนอกจากจำหน่ายผลมะนาวเป็นหลักแล้ว ยังมีรายได้เสริมจากการจำหน่ายกิ่งพันธุ์มะนาวแป้นเกษตรให้แก่เกษตรกรผู้สนใจทั่วประเทศ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ราชบุรี ลำปาง ฯลฯ
หน้า 87
วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 558 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 9
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ในฉบับนี้ เป็นช่วงการพูดคุยในหัวข้อ "รู้ลึกๆ การผลิตมะนาว ให้มีผลผลิตจำหน่าย" โดย อาจารย์ประเวศ แสงเพชร เจ้าของคอลัมน์ "หมอเกษตร ทองกวาว" ทำหน้าที่เป็นพิธีกรพูดคุยกับวิทยากรรับเชิญ ประกอบด้วย คุณศิริชัย จันทร์นาค ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด คุณรัตนพงษ์ ลิ้มทศ เกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จในการผลิตมะนาวแปลงใหญ่ที่หนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อาจารย์วัง สุขประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ และเป็นประธานกลุ่มอาชีพผู้ผลิตมะนาวนอกฤดู
คุณรัตนพงษ์ : แปลงปลูกมะนาวทุกแห่งเจอปัญหาแคงเกอร์ทั้งนั้น สวนมะนาวของผมปลูกเยอะทำมานานยังป้องกันโรคแคงเกอร์ไม่ได้เลย บางครั้งไปเลือกซื้อพันธุ์มะนาวปลอดโรคมาใช้ เมื่อนำไปปลูก ก็ยังเจอปัญหาแคงเกอร์อยู่เหมือนเดิม เกษตรกรส่วนใหญ่จะเลือกใช้ยา ตามที่ร้านค้าจำหน่ายสารเคมีเป็นผู้แนะนำ ผมเคยใช้พริกขี้หนูนำมาบดและหมัก ก่อนนำไปฉีดพ่นต้นมะนาว ผมไม่รู้ว่า สูตรนี้แก้ไขปัญหาแคงเกอร์ได้ผลหรือเปล่า เนื่องจากคนงานขอร้องให้เลิกใช้เสียก่อน เพราะขนาดคนงานคลุมหน้าคลุมตา แค่ฉีดไปได้ 2 ชั่วโมง ก็รู้สึกแสบร้อนหน้าตาไปหมด คนงานบางคนเกิดอาการแพ้พริกอย่างรุนแรง มีอาการตาแดง และมีอาการปากบวมแดง ผมสงสารคนงานก็เลยเลิกใช้พริกไปเลย
อาจารย์ประเวศ : การแก้ไขปัญหาโรคแคงเกอร์ หรือโรคขี้กลาก ที่ได้ผลดี ที่เจ๊เล็ก ตลาดไทแนะนำก็คือ ใช้พริกขี้หนูแดงโขลกให้ละเอียดและนำไปฉีดพ่นร่วมกับสารเคมีกำจัดโรคแคงเกอร์ ที่มีชื่อทางการค้าว่า แคงเกอร์เอ็ก (สเตรปโตมัยซิน, คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์, คอปเปอร์ออกไซด์) ได้ผลดีในระดับหนึ่ง สำหรับเพลี้ยอ่อนหรือแมลงบางชนิด ผมจะใช้ยาฉุน จำนวนหนึ่งหมักกับน้ำ 1 ลิตร ทิ้งไว้ 1 คืน ตอนเช้านำมากรองน้ำออกและเติมเหล้าขาวใส่เข้าไป นำไปฉีดพ่นที่ต้นไม้ เพลี้ยอ่อนและแมลงก็จะหายไปในที่สุด ผมอยากรู้ว่า สวนของคุณรัตนพงษ์มีเทคนิคการทำมะนาวนอกฤดูอย่างไร ทำแล้วต้นมะนาวโทรมหรือไม่
คุณรัตนพงษ์ : เทคนิคการทำมะนาวนอกฤดู มีหลายขั้นตอน เช่น การตัดยอด ปัจจุบัน สวนมีเนื้อที่ 30 ไร่ ปลูกในลักษณะเกษตรผสมผสาน โดยปลูกมะม่วงและมะนาวกว่า 1,000 ต้น จะให้คนงานมาตัดยอดก็คงไม่ไหว หากจะพึ่งพาการใช้สารเคมีอย่างเดียวก็ตาย เพราะมีราคาแพง ตก 1,000 กว่าบาท แถมต้นโทรม ฟื้นฟูยาก
เทคนิคง่ายๆ ที่ผมเลือกใช้คือ "ปุ๋ย" เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตของต้นมะนาว สำหรับมะนาวต้นใหม่ อายุ 2 ปี หากฉีดฮอร์โมนบางตัวมากเกินไป จะเกิดอาการยอดใบเหลือง ที่เรียกว่า กรีนนิ่ง หยุดความเขียว เมื่อเกิดอาการดังกล่าว ต้นมะนาวจะไม่ให้ผลผลิตอย่างเต็มที่ เหลือ 30-40% เท่านั้น
หากต้องการให้ต้นมะนาวได้ผลผลิตดีที่สุด หลังหมดช่วงฤดูฝนพยายามอย่าให้ปุ๋ย หากเผลอให้ปุ๋ยสูตรเสมอ ต้นมะนาวจะแตกยอด และควรหลีกเลี่ยงการใช้ฮอร์โมนที่มีส่วนผสมของกากน้ำตาล เพราะเป็นอาหารอย่างดีของแคงเกอร์ หากใช้ปุ๋ยชีวภาพที่มีส่วนผสมของมูลสัตว์ในสวนมะนาว ระวังอย่าใช้ปุ๋ยที่ทำจากมูลไก่เนื้อ ถึงแม้จะมีราคาถูก แต่มีคุณภาพต่ำ สู้มูลไก่ไข่ไม่ได้
ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ฝนยังตกชุกอยู่ ควรให้ฮอร์โมนประเภทที่ว่า ยับยั้งการแตกยอดอ่อน หลังจากนั้นบำรุงต้นมะนาวให้เกิดการสะสมอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการแตกตาดอก ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน จะให้น้ำต้นมะนาวอย่างสม่ำเสมอ อย่าเอาปุ๋ยยูเรียหรือปุ๋ยตัวหน้าสูงไปฉีดต้นมะนาวเพื่อให้ใบร่วง เพราะวิธีนี้ไม่ได้ผล ต้นมะนาวจะแตกตายอด ซึ่งดูแลรักษายาก
หลังจากเปิดตาดอก ให้อัดปุ๋ยเข้าไป เลือกใช้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารตัวหลังสูงๆ เปอร์เซ็นต์การออกผลก็จะเยอะ วิธีนี้จะทำให้มะนาวออกดอกมาพร้อมกับตายอด เป็นกิ่งที่สมบูรณ์ เมื่อต้นมะนาวแทงยอดออกมา จะมีใบและดอกข้างออกมาด้วย มะนาวจะดกและจะประสบความสำเร็จในการทำมะนาวนอกฤดู
อาจารย์ประเวศ : ผมเห็นด้วยกับคุณรัตนพงษ์ เรื่องการใช้ปุ๋ยมูลไก่ ทำให้พืชเกิดโรคได้ง่าย เพราะที่ผ่านมา สวนส้มในพื้นที่ภาคกลางก็อัดปุ๋ยมูลไก่มาก ตอนหลังเจอปัญหาโรคพืชหลายชนิด
คุณรัตนพงษ์ : การใช้ปุ๋ยมูลไก่ในปริมาณมากก็มีผลกระทบ หากต้องการใช้ปุ๋ยมูลไก่ให้ได้ผลดี ต้องปลูกต้นมะนาวในระยะห่าง 3 เมตร นำปุ๋ยมูลไก่ จำนวน 1 กระสอบ ไปวางในแปลงมะนาว แต่อย่าเทปุ๋ยออกมา โดยทั่วไปมูลไก่เหล่านี้มักจะมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายตัวเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว ในช่วงฤดูฝน น้ำฝนจะไหลซึมผ่านกระสอบปุ๋ยไปยังพื้นดิน จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน สำหรับปุ๋ยมูลไก่ ควรจะใช้ปีละ 1 ครั้ง สำหรับปุ๋ยมูลโค เกษตรกรไม่ค่อยนิยมใช้ แต่ความจริงปุ๋ยมูลโคได้ผลดีทีเดียว สังเกตว่า มะนาวต้นไหนที่ใช้ปุ๋ยมูลโคจะมีต้นหญ้าขึ้นงามมาก
สวนมะนาวของผมให้น้ำต้นมะนาว ใน 2 รูปแบบ คือ ใช้ระบบสปริงเกลอร์ กับใช้แรงงานคนลากสายยางไปรดน้ำต้นมะนาว พบว่า การให้น้ำด้วยระบบสายยางได้ผลดีกว่า เวลาหน้าหนาว เจอปัญหาผลมะนาวร่วง ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาเชื้อราทั้งสิ้น สวนที่ให้น้ำระบบสปริงเกลอร์ หากฉีดยาจับใบที่มีส่วนผสมของกากน้ำตาล มีรสหวาน เชื้อราชอบมาก ทำให้เกิดปัญหาผลมะนาวร่วง หากต้นมะนาวมีฝุ่นเกาะเต็มควรใช้น้ำล้างต้นมะนาวเสียก่อนจึงค่อยฉีดยากำจัดศัตรูพืช
อาจารย์ประเวศ : ผมขอนำเสนอวิทยากรอีกท่าน คือ อาจารย์วัง สุขประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์
อาจารย์วัง : ผมชื่ออาจารย์วัง สุขประเสริฐ เป็นคนจังหวัดพิจิตร เป็นลูกชาวนา ปัจจุบัน ทำงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร เบอร์โทรศัพท์ (087) 201-1607 การปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์เกิดจากความบังเอิญ งานประจำที่ผมทำเกี่ยวกับการรวบรวมพันธุ์ และขยายพันธุ์พืชตระกูลส้ม โดยนำพันธุ์ส้มและมะนาวที่ได้มาใส่ในวงบ่อ
ผมคิดว่า หากปลูกมะนาวในวงบ่อจะทำให้ติดผลดีในช่วงการผลิตมะนาวนอกฤดู จึงเขียนโครงการเพื่อของบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อของบประมาณในการศึกษาวิจัย แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ด้วยความที่ใจรักอยากทดลองเรียนรู้ จึงควักเงินทุนตัวเอง ซื้อมะนาวมาปลูก จำนวน 40 วง ปรากฏว่า ต้นมะนาวสามารถติดผลในช่วงนอกฤดู
สำหรับวงบ่อซีเมนต์ที่ผมซื้อมาใช้มีหลายขนาด เริ่มจากเส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาด 40 เซนติเมตร 80 เซนติเมตร 1 เมตร และ 1.20 เมตร ปัญหาจนถึงขณะนี้ก็คือ ยังไม่มีใครสรุปได้ว่า ควรใช้วงบ่อขนาดไหน และการปลูกลักษณะนี้ ต้องใช้ต้นทุนเท่าไหร่
ผมมีโอกาสได้ถวายงาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อ ปี 2540 ในเรื่องมะนาวและไม้ผล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชดำรัสว่า อยากได้คนเก่งๆ ไปสอนชาวบ้าน พอดีผมมีโอกาสได้ถวายงาน ในเรื่องมะนาวพันธุ์ดี เชื่อหรือไม่ มะนาวต้นหนึ่ง ผมสามารถตัดได้ถึง 5,000 บาท มะนาวลังหนึ่ง ผมขายได้ในราคา 1,000 บาท มันมีเทคนิคสำคัญคือ ขอให้ใจรักและสู้
การทำมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ ที่ผมทดลองทำถูกทำผิดมาประมาณ 3-4 ปีนี้ พบว่า ระยะที่เหมาะสม มี 2 ระยะ คือ ขนาด 4x4 เมตร และขนาด 4x5 เมตร วงบ่อที่เหมาะสมที่สุดคือ ขนาดกว้าง 1 เมตร สูง 50 เซนติเมตร
หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องปลูกมะนาวในวงบ่อ ปลูกมะนาวในแปลงก็ได้ผลดีไม่แพ้กัน ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีปลูก สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณา ได้แก่ การกำจัดวัชพืช การดูแลจัดการสวน เพราะปีที่ 3 ต้นมะนาวจะมีกิ่งชนกัน สำหรับพื้นที่ 5 ไร่ จะปล่อยให้ต้นมะนาวขึ้นทึบไม่ได้ เพราะมะนาวต้องปลูกเป็นต้นเดี่ยวๆ และต้องได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่
หากปลูกมะนาวในวงบ่อ ผมขับรถไถขนาดเล็กวิ่งได้รอบสวนเลย สะดวกต่อการฉีดยาบำรุงต้นมะนาว ผมทดลองปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ตั้งแต่ ขนาด 40 เซนติเมตร จนถึง 1.20 เมตร จากข้อมูลที่ผมเก็บรวบรวมตลอด 3-4 ปี พบว่า ผลผลิตไม่แตกต่างกัน
ขั้นแรกที่ผมทดลองคือ การใช้วัสดุปลูก ประเภทปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ในปริมาณมากกว่าเนื้อดิน หลังปลูกพบว่า ต้นมะนาวเสียหายหมด ทั้งๆ ที่ต้นโตเป็นพุ่มแล้ว ตอนหลังผมจึงเปลี่ยนวัสดุใหม่ เป็นปุ๋ยคอก 2 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากับดิน ที่มีจำนวนมากกว่า และนำไปปลูกด้วยวิธีธรรมดาทั่วไป
พื้นที่สวนมะนาวของผมมีลักษณะเป็นที่นา มีปัญหาในช่วงหน้าฝน เมื่อฝนตกปุ๊บ จะมีปัญหาน้ำขัง ต้องปรับยกร่อง ขนาดสันร่องประมาณ 8 เมตร ลักษณะที่ดินเหมือนเป็นรูปหลังเต่า สำหรับวงบ่อซีเมนต์ทั่วไป มักจะมีแผ่นรองพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้รากต้นมะนาวชอนไชลงดิน นี่คือ สาเหตุที่เลือกทำมะนาวนอกฤดูในวงบ่อ
สำหรับแปลงที่ปลูกขณะนี้ มีต้นมะนาว จำนวน 500 วง ต้นมะนาวอายุ 23 เดือน การบริหารจัดการมันง่ายไปหมด จากประสบการณ์การปลูกมะนาวในแปลง เนื้อที่ 30 ไร่ หมดเงินไป 2 แสนบาท แถมเจอปัญหาเรื่องแรงงาน ต้องง้อแรงงาน เวลาหน้าฝนที ก็ปวดหัวที เคยให้ค่าแรงถึงไร่ละ 400 บาท สำหรับตัดแต่งกิ่งมะนาว แต่ยังหาคนงานได้ยาก เพราะไม่อยากเสี่ยงเจ็บตัวจากหนามมะนาว ช่วงเก็บมะนาวก็หาแรงงานได้ยากเช่นกัน เพราะต้นมะนาวพุ่มเบ่อเร้อ ต้องใช้ไม้สอยแล้วต้องมุดเข้าไปเก็บมะนาวในพุ่ม ทำงานลำบาก
(กรุณาติดตามอ่าน "มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 10 ได้ในฉบับหน้า)
หน้า 79
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 ปีที่ 25 ฉบับที่ 559 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 10
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
สำหรับฉบับนี้ ยังเป็นบรรยากาศการพูดคุย ในหัวข้อ "รู้ลึกๆ การผลิตมะนาว ให้มีผลผลิตจำหน่าย" โดย อาจารย์ประเวศ แสงเพชร เจ้าของคอลัมน์ "หมอเกษตร ทองกวาว" รับหน้าที่เป็นพิธีกรพูดคุยกับวิทยากรรับเชิญ ประกอบด้วย คุณศิริชัย จันทร์นาค โทร. (086) 167-3797 ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด คุณรัตนพงษ์ นิ่มวาด โทร. (085) 808-6515 เจ้าของสวนมะนาวรายใหญ่ที่หนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อาจารย์วัง สุขประเสริฐ โทร. (087) 201-4607 ผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ และเป็นประธานกลุ่มอาชีพผู้ผลิตมะนาวนอกฤดู
อาจารย์วัง : ผมตัดสินใจมาทำมะนาวในวงบ่อ เพราะดูแลง่าย อายุประมาณ 8 เดือน ก็ปลูกมะนาวนอกฤดูได้แล้ว ในการบำรุงรักษา ต้องใช้ไม้ผูกค้ำกิ่ง ปกติการปลูกมะนาวในแปลง มักจะมีการพรวนดินให้สูงๆ ดินก็จะทรุดตัวลงไป สำหรับการปลูกมะนาวในวงบ่อ หากใส่ดินให้ท่วม ต้นมะนาวจะตายได้ ต้องค่อยๆ เติมวัสดุปลูกลงไป เพื่อให้พืชปรับตัวเสียก่อน เพราะพืชตระกูลส้มค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคเชื้อรา
สำหรับวงบ่อซีเมนต์ที่ใช้ปลูกไม่ได้ปิดผนึก แต่ใช้การวางเทิน โดยทั่วไปต้องใช้แผ่นรองก้นวงบ่อ เพื่อป้องกันรากต้นมะนาวจะออกมาในปีที่ 2-3 พืชตระกูลส้ม ต้องให้ผ่านฤดูแล้งก่อน จึงจะออกดอกผล สำหรับต้นมะนาว ปลูกดูแลรักษาง่าย สำหรับข้าราชการที่เข้าสู่วัยปลดเกษียณไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรต่อไป ก็น่าจะหันมาปลูกมะนาว
เมื่อตัดสินใจทำสวนมะนาว คำนวณต้นทุนอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ (อ้างอิงจากต้นทุน ที่จังหวัดพิจิตร) ได้แก่ วงบ่อ ขนาด 1 เมตร สูง 50 เซนติเมตร พร้อมแผ่นรอง ขายในราคาชุดละ 300 บาท อุปกรณ์ระบบน้ำ เช่น ท่อ PE สายไส้ไก่ ฯลฯ โดยมีต้นทุนเฉลี่ย ต้นละ 20 บาท มีค่าจ้างแรงงานผสมดินวงละ 20 บาท ค่ากิ่งพันธุ์มะนาว ต้นละ 50 บาท รวมต้นทุนการผลิตมะนาววงบ่อ ประมาณชุดละ 420 บาท
ผมมีรุ่นน้องคนหนึ่งจบวิศวะ ทำงานอยู่ที่จังหวัดระยอง มีรายได้สูง แต่บริษัทกำลังจ้างให้ออก เขามีเงินทุนก้อนสุดท้ายจำนวน 50,000 บาท ไม่รู้จะทำอาชีพอะไรต่อไป ผมก็ชวนเขามาเรียนรู้เรื่องการทำมะนาววงบ่อที่จังหวัดพิจิตร เขาใช้เงินทุน จำนวน 30,000 บาท ปลูกมะนาวในวงบ่อ จำนวน 200 วง ที่จังหวัดระยอง ชื่อว่า สวนเจ้าสัว
สำหรับวงบ่อที่จังหวัดระยอง ราคาไม่แพงเท่าไหร่ เนื่องจากมี ขนาด 1 เมตร สูง 35 เซนติเมตร ผมจึงแนะนำให้เขาใช้วงบ่อ 2 วง ซ้อนกัน เพื่อให้มีความสูงของวงบ่ออยู่ที่ 70 เซนติเมตร และผมก็ถ่ายทอดเทคนิคการตอนกิ่งมะนาวให้เขาไป เพื่อผลิตกิ่งตอนขาย เขาทำไปได้ 2 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ เขาโทร.บอกผมว่า ตอนนี้เขาปลูกมะนาว 600 วงแล้ว ปีนี้เขาคาดว่า เมื่อหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว จะมีรายได้สุทธิ 800,000 บาท เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีความมานะ จึงประสบความสำเร็จได้ง่าย ที่จังหวัดระยอง ปีนี้เขาขายมะนาวไซซ์ใหญ่ในช่วงฤดูแล้ง ได้ราคาสูงถึง ลูกละ 8 บาท ปลูกมะนาว 600 วง เก็บมะนาวออกขายได้ ครั้งละ 10,000 ลูก
นอกจากนี้ ผมยังมีลูกศิษย์เป็นผู้หญิงอีกคนที่ประสบความสำเร็จในการทำสวนมะนาวอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี เขาเพิ่งเรียนจบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เขาขับรถไปหาผมที่จังหวัดพิจิตร ขอเรียนเรื่องการขยายพันธุ์มะนาว และขอซื้อกิ่งพันธุ์มะนาวจากผม ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสมทั้งหมด เขาวิ่งไปวิ่งมาหาผมหลายรอบ ปีที่แล้วเขาขายกิ่งพันธุ์ได้ล้านกว่าบาท
ที่ผ่านมา ผมสอนเรื่องการผสมพันธุ์ การขยายพันธุ์ สำหรับพันธุ์มะนาวที่ใช้คือ พันธุ์ราชการ กับพันธุ์ส่วนตัว ผมนิยมใช้สายพันธุ์มะนาวพื้นเมืองทั่วๆ ไป เช่น พันธุ์แม่ไก่ไข่ดก ซึ่งเป็นมะนาวพันธุ์ลูกกลมๆ ผิวบาง น้ำดีๆ หากใครสนใจอยากเล่นมะนาว ควรรู้จักการไขว้สายพันธุ์ คือยึดหลักที่ว่า ผสมข้ามจากต้นนี้ไปต้นนั้น จะช่วยพัฒนาพันธุ์มะนาวที่ทนทานต่อโรคแคงเกอร์
สำหรับมะนาวพันธุ์ลูกผสมของผม ส่วนใหญ่มีความต้านทานต่อโรคแคงเกอร์ 90-95% มะนาวทั่วไปมักเป็นโรคแคงเกอร์ ส่วนพันธุ์ที่ปลอดโรคแคงเกอร์ก็ยังมี แต่ตลาดไม่สนใจ ตอนนี้ผมก็ทำมะนาวปลอดโรคอยู่ต้นหนึ่ง เป็นมะนาวพันธุ์แป้นปลอดโรคแคงเกอร์ แต่ยังไม่เปิดตัวออกมา รอไว้ก่อน
หากใครอยากเข้ามาทำธุรกิจมะนาว จะต้องมีความรู้แม่นยำในเรื่องสายพันธุ์มะนาว ผมขอยกตัวอย่าง มะนาวแป้นเอี่ยมเซ้ง หากท่านเห็นลูกมะนาว รู้ไหมว่าพันธุ์อะไร สำหรับลักษณะมะนาวแป้นเอี่ยมเซ้ง ลูกจะมีตะเข็บเหมือนรอยกัดทับชนกัน นี่คือ เอกลักษณ์ของมะนาวพันธุ์นี้ ที่คุณควรเรียนรู้ให้แม่นยำ
สำหรับมะนาวพันธุ์ลูกผสมที่ผมทำ ส่วนมากจะให้เกษตรกรนำไปปลูก โดยมะนาวลูกผสมพันธุ์นี้เกิดจากมะนาวพันธุ์เอี่ยมเซ้ง กับพันธุ์แม่ไก่ไข่ดก มีกลิ่นฉุนแรง ต้านทานโรคแคงเกอร์ได้ดี เวลาผสมพันธุ์ข้ามกัน หากจะทดสอบว่า ลูกผสมพันธุ์นี้ ต้านทานโรคแคงเกอร์หรือไม่ เวลาที่เพาะต้นได้สัก 3-4 เดือน ให้ตัดกิ่งมะนาวที่เป็นโรคแคงเกอร์มาแช่น้ำทิ้งไว้สักคืน หลังจากนั้น นำไปเทใส่ต้นมะนาว หากเป็นพันธุ์ที่ต้านทานโรคแคงเกอร์ได้ จะเริ่มเห็นแววตั้งแต่เล็กว่า ต้นไหนดี ต้นไหนไม่ดี
ในแง่ผลตอบแทนการลงทุน พบว่า การปลูกมะนาวในวงบ่อ จะเริ่มคืนทุนตั้งแต่ปีที่ 1 ประมาณ 30% หลายคนสงสัยว่าทำไมได้ผลตอบแทนไม่เต็มร้อย เพราะโดยทั่วไปต้นมะนาวที่ปลูก 100 ต้น จะเติบโตไม่เท่ากัน อาจจะให้ผลผลิตดีเพียงแค่ 60-70 ต้น ที่ทำผลิตมะนาวนอกฤดูได้ สรุปปีแรกจะได้ผลผลิตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ปีที่ 2 จะคืนทุนได้ 100% เนื่องจากในพื้นที่ 1 ไร่ จะทำมะนาวนอกฤดูได้ทุกต้น ส่วนผลตอบแทนในปีที่ 3 ที่ผมเคยตรวจนับพบว่า ได้ผลผลิต ตกต้นละ 1,000 ลูก หากลองคูณด้วยจำนวนต้นมะนาว 500 วง บนเนื้อที่ 5 ไร่ มะนาวนอกฤดูที่ขายช่วงหน้าแล้ง ในราคาถูกๆ แค่คูณด้วยราคากลาง ลูกละ 3 บาท เพียงเท่านี้ก็ได้เงินกว่าล้านบาทแล้ว
ผมทำสวน ใช้เงิน 2.5 แสนบาท ปลูกมะนาว 500 วง ที่เหลือใช้ในการขุดบ่อ ทำระบบน้ำ มีคนถามผมว่า มะนาวในวงบ่อมีอายุเท่าไหร่ ผมตอบว่า อย่างน้อย 10 ปี การปลูกมะนาววิธีนี้ เกษตรกรจะมีโอกาสผลิตมะนาวนอกฤดู ที่ใช้ต้นทุนค่าอาหารและยาในอัตราต่ำ และได้กำไร 7 ปี
การปลูกมะนาวในวงบ่อ อยากจะแนะนำให้พี่น้องหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี และประหยัดค่าใช้จ่าย โดยหันมาใช้น้ำส้มควันไม้ แค่เดือนละ 2 ครั้ง โดยใช้ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร น้ำส้มควันไม้จะทำหน้าที่ขับไล่แมลงในสวนมะนาว หากใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยปรับโครงสร้างของพืชให้แข็งแรง หากคำนวณต้นทุนค่าใช้จ่ายในสวนของผม ปลูกมะนาว 500 วง อายุ 3 ปี ใช้ปุ๋ยเคมี 6 ลูก ค่ากำจัดวัชพืช 7,200 บาท ต่อปี ค่าไฟฟ้า เดือนละ 1,000 บาท หรือ ปีละ 12,000 บาท น้ำส้มควันไม้ ลิตรละ 20 บาท ซื้อขนาดถังละ 200 ลิตร ตกประมาณ 3,000 บาท ปีหนึ่งใช้ไม่หมด
การปลูกมะนาวในปีแรก ยังไม่มีรายได้เลี้ยงคนงาน ผมจึงปลูกผักแซมในวงบ่อ ปรากฏว่า ผักที่ปลูกกลับล่อแมลงเข้ามา ยกเว้น โหระพา กะเพรา ผักเสี้ยน ที่ปลูกในวงบ่อแล้วเป็นรายได้เสริมที่ดี เก็บโหระพาขาย วันละ 100 มัด ในราคา มัดละ 3 บาท มีรายได้เลี้ยงคนงาน ประมาณวันละ 300 บาท
หากต้องการปลูกและขายมะนาวในช่วงราคาแพง สิ่งที่ต้องคำนึง ได้แก่ เรื่องพันธุ์มะนาว คนที่ปลูกมะนาวต้องรู้ว่า มะนาวแป้น มะนาวราชการมีอายุแก่เท่าไหร่ ประการต่อมา เลือกทำมะนาวนอกฤดูในระยะเวลาที่เหมาะสม ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม-กันยายน-ตุลาคม-พฤศจิกายน ในระยะ 5 เดือนนี้ ให้เกษตรกรตัดสินใจเองว่า จะเลือกทำมะนาวนอกฤดูในช่วงเดือนไหน โดยปกติผมจะเริ่มทำมะนาวนอกฤดูตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หากอยากขายมะนาวได้ราคาแพง ต้องเลือกทำในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน หากอยากได้เงินเร็ว ให้ทำตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
วิธีการทำมะนาวนอกฤดู เกษตรกรควรศึกษาเสียก่อนว่า ท้องถิ่นของท่านเจอภาวะแล้งในช่วงไหนของทุกปี สำหรับประเทศไทย ระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม โดยทั่วไปจะเกิดภาวะแล้ง ประมาณ 20 วัน เราต้องใช้วิกฤตตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ หลังจากอดน้ำมะนาวในวงบ่อ 1 สัปดาห์ โดยธรรมชาติเมื่อพืชตระกูลส้มขาดน้ำ เกิดอาการเหี่ยวแล้ว จะเกิดอาการกลัวตายและเร่งผลิดอกออกผลทันที
เกษตรกรต้องคอยสังเกต หากพบว่า ต้นมะนาวมีอาการเหี่ยว ใบร่วงประมาณ 80% จึงค่อยให้ปุ๋ยเคมี สูตร 12-24-12 ในอัตรา 300 กรัม ต่อต้น ให้ปุ๋ยหว่านแห้งก่อนจึงค่อยรดน้ำตาม พืชจะดูดกินธาตุอาหารจากปุ๋ยได้ทันที หลังจากนั้น อีกประมาณ 15 วัน ต้นมะนาวจะเริ่มแตกใบอ่อนและผลิดอกออกมา ดูแลต้นมะนาวตามขั้นตอนปกติ ตั้งแต่ระยะดอกผลิบาน จนถึงช่วงเก็บเกี่ยวจะใช้เวลา ประมาณ 5-6 เดือน
ที่ผมเล่ามา เป็นขั้นตอนการผลิตมะนาวนอกฤดู ที่ปลูกในวงบ่อ ที่ทุกคนสามารถนำไปทำได้ หากใครยังไม่มั่นใจฝีมือตัวเอง ขอแนะนำให้ลองซื้อวงบ่อมาทดลองปลูกเสียก่อน ผมอยากให้เพื่อนเกษตรกรเริ่มต้นทำมะนาวนอกฤดูในวงบ่ออย่างชาญฉลาด ค่อยเป็นค่อยไป ผมเริ่มลงทุนทำสวนมะนาวขนาดเล็ก ใช้เงินทุน 1,200-2,000 บาท ต่อมาขยายเพิ่มขึ้นโดยใช้เงินทุนถึงตัวเลขเจ็ดหลัก
สำหรับคนที่ชื่นชอบการปลูกมะนาว ผมอยากแนะนำให้ลองเก็บสะสมสายพันธุ์มะนาวที่มีลักษณะแปลกๆ ไว้สำหรับใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในอนาคต เนื่องจากมะนาวบางสายพันธุ์สามารถต้านทานโรคแคงเกอร์ได้ดี ทุกวันนี้ผมมีเพื่อนสมาชิกผู้ปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อ ประมาณ 30 คน ปลูกมะนาวเฉลี่ย 500-600 วง แต่ละคนมีรายได้เกือบล้านบาทต่อปี หากใครอยากได้ความรู้เรื่องมะนาวเพิ่มเติม เรื่องการผสมพันธุ์มะนาว เรื่องตลาด แวะไปพูดคุยกับผมได้ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์
(กรุณาติดตามอ่าน "มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 11 ได้ ในฉบับหน้า)
หน้า 71
วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 26 ฉบับที่ 560 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 11
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ภายหลังจาก อาจารย์ประเวศ แสงเพชร เจ้าของคอลัมน์ "หมอเกษตร ทองกวาว" ซึ่งเป็นพิธีกร ได้เชิญวิทยากรทั้ง 3 ท่าน คือ คุณศิริชัย จันทร์นาค โทร. (086) 167-3797 ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด คุณรัตนพงษ์ นิ่มวาด โทร.(085) 808-6515 เจ้าของสวนมะนาวรายใหญ่ที่หนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อาจารย์วัง สุขประเสริฐ โทร.(088)201-4607 ผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ ร่วมพูดคุย ในหัวข้อ "รู้ลึกๆ การผลิตมะนาว ให้มีผลผลิตจำหน่าย" กันครบทุกคนแล้ว พิธีกรได้เปิดเวทีให้ผู้เข้าร่วมเสวนาได้มีโอกาสซักถามประเด็นข้อสงสัยกับวิทยากรแต่ละท่าน รวมไปถึงวิทยากรรับเชิญในการเสวนาในช่วงตอนเช้าด้วย
ผู้เข้าร่วมเสวนา : การปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อ มีผลผลิตมากแค่ไหน?
อาจารย์วัง : สวนมะนาวของผมจะแบ่งล็อกการเก็บผลผลิต ประมาณ 2 แถว หรือแถวครึ่ง ต่อสัปดาห์ จะเก็บมะนาวไซซ์ใหญ่ เบอร์ 3 ได้ไม่ต่ำกว่า 20 กระสอบ กระสอบละ 300 ลูก จะขายในราคาหน้าสวนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ลูกละ 5 บาท นั่นคือ รายได้แต่ละสัปดาห์ของผม
ผู้เข้าร่วมเสวนา : สวัสดีครับ ผมชื่อ ตรีพล จันทวงศ์ จากจังหวัดสระแก้ว การปลูกมะนาวที่แนะนำให้ใช้ ดิน 3 ส่วน ปุ๋ย 2 ส่วน และวัสดุอื่นๆ ผมไม่เข้าใจว่า วัสดุอื่นๆ มีอะไรบ้าง ข้อมูลในเว็บไซต์ด้านการเกษตร อธิบายว่า วัสดุอื่นๆ ได้แก่ ฟางข้าว เปลือกถั่วเหลือง เปลือกถั่วเขียว แถวบ้านผมหาวัสดุปลูกเหล่านี้ได้ค่อนข้างยาก ในท้องถิ่นที่ผมอยู่ มีโรงงานทำแป้งมัน ที่ร่อนเปลือกมันสำปะหลังออกมากองไว้เป็นจำนวนมาก เกษตรกรนิยมซื้อไปเพาะเชื้อเห็ดฟาง ผมอยากรู้ว่า จะใช้เปลือกมันสำปะหลังเป็นวัสดุปลูกมะนาวได้หรือไม่ และเมื่อนำไปใช้งาน จะให้ผลแตกต่างจากวัสดุปลูกประเภทอื่นอย่างไรบ้าง?
อาจารย์วัง : เปลือกถั่วเหลือง ใช้เป็นวัสดุปลูกมะนาวได้ แต่ขอให้ผ่านหนึ่งฤดูฝนไปก่อน หากลองสังเกตจะเห็นว่า กากถั่วจะมีเชื้อราสีขาว อันตรายมาก ต้องระวัง หากกองทิ้งไว้จะเกิดความร้อน และมีเชื้อราชนิดหนึ่งที่มีความสามารถทำลายรากพืช หากต้องการใช้วัสดุชนิดนี้ ควรนำเปลือกถั่ววางทิ้งไว้สัก 6 เดือน ก่อนนำไปใช้งาน นอกจากนี้ วัสดุปลูกประเภทแกลบดิบก็สร้างปัญหาได้เช่นกัน เมื่อก่อนผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ใช้แกลบดิบมาผสมวัสดุปลูกปลูกพืช ปรากฏว่า ปลูกได้ไม่ถึงเดือน เชื้อราเพียบเลย พืชตายหมด วัสดุปลูกอีกชนิดที่ต้องระวังคือ ปุ๋ยคอก ตามหลักการแล้ว ปุ๋ยคอกสดๆ พืชจะไม่สามารถนำไปใช้งานได้เลย ต้องปล่อยให้ปุ๋ยคอกสลายตัวมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน พืชจึงนำไปใช้งานได้
การปลูกมะนาว ท่านควรจัดเตรียมวัสดุปลูกไว้ล่วงหน้า สำหรับพื้นที่แถบสุพรรณบุรี กาญจนบุรี พิษณุโลก พิจิตร ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานน้ำตาล โรงงานส่วนใหญ่ต้องการหาที่ทิ้ง "กากหม้อกรอง" หรือ ฟิลเตอร์เค็ก (filter cake) ลองติดต่อโรงงานให้นำมาทิ้งในที่ดินของเกษตรกรแทน สำหรับเปลือกมันสำปะหลังใช้เป็นวัสดุปลูกมะนาวได้ แต่ต้องวางทิ้งไว้สัก 1 เดือน ก่อน จึงค่อยนำไปใช้งาน ไม่ควรใจร้อนนำไปใช้งานเลย เพราะเสี่ยงเจอปัญหาเรื่องเชื้อรา หากท่านอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ผมขอแนะนำให้ลองใช้เศษใบไม้เก่าๆ โดยเฉพาะใบก้ามปู พืชตระกูลถั่ว จ้างเด็กไปกวาดเศษใบไม้เก่ามาใช้เป็นวัสดุปลูกได้
ผู้เข้าร่วมเสวนา : ใช้ฟางข้าว แต่ปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ฟางข้าวอาจจะเน่าได้?
อาจารย์วัง : ฟางข้าว ก็เหมือนกับปุ๋ยพืชสดทั่วไป หากฟางข้าวยังไม่สลายตัว พืชก็ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ปกติต้องผ่านกระบวนการทำปุ๋ยหมักมาเสียก่อน การย่อยของพืชแต่ละอย่างที่เป็นฮิวมัส (อินทรียวัตถุมีสีน้ำตาล หรือสีดำ ที่เกิดจากการย่อยสลายของซากพืชซากสัตว์) พืชจึงนำไปใช้ประโยชน์ได้ ส่วนใหญ่แล้วเกษตรกรมักนำฟางข้าวไปใช้คลุมดิน หากท่านจะใช้ฟางผสมในวัสดุปลูกมะนาวก็สามารถทำได้
ผู้เข้าร่วมเสวนา : พื้นที่บางคล้า เหมาะสมสำหรับปลูกมะนาวหรือไม่?
อาจารย์วัง : กรมพัฒนาที่ดิน ระบุว่าลักษณะดินที่เหมาะสำหรับปลูกมะนาว ต้องมีค่าความเป็นกลางอยู่ที่ 5.5-6.5 โดยทั่วไป มะนาวสามารถปลูกได้ทั่วประเทศไทย หากใครสงสัยว่าที่ดินของตัวเองจะปลูกมะนาวได้หรือไม่ ควรนำตัวอย่างดินไปตรวจเช็กที่กรมพัฒนาที่ดิน ก็จะได้รับคำตอบที่ชัดเจน
ผู้เข้าร่วมเสวนา : ปุ๋ยโยกหน้า-โยกหลัง ใส่ในอัตราเท่าไหร่ ต่อต้น?
รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี : ปุ๋ยสูตรโยกหน้า (สูตร 21-7-14 สูตร 21-4-16) ใส่ช่วงดอกบาน เพื่อกระตุ้นการแตกใบอ่อนและช่วยขยายผล ส่วนปุ๋ยโยกหลัง (สูตร 15-5-20) ใช้ก่อนต้นมะนาวออกดอก หรือช่วงกำลังฟอร์มดอก ปริมาณการใช้ปุ๋ยขึ้นอยู่กับขนาดพุ่มต้น สำหรับต้น ขนาด 1-2 เมตร ผมจะใช้ปุ๋ย ประมาณ 1-1.5 ขีด ต่อต้น ต่อเดือน สิ่งสำคัญที่ผมเน้นคือ ความต่อเนื่องของปุ๋ย หากสามารถแบ่งปริมาณปุ๋ยที่กำหนด และทยอยการให้ปุ๋ยเป็น 2 ครั้ง ต่อเดือน ก็นับเป็นเรื่องที่ดี และหลังจากให้ปุ๋ยทุกครั้ง จะต้องรดน้ำตามทันที
ส่วนธาตุอาหารเสริมกลุ่มย่อย ผมขอแนะนำให้ฉีดพ่นทางใบ ขณะที่มีใบอ่อนเกิดใหม่ สำหรับต้นมะนาวหรือไม้ผลทุกชนิด ช่วงที่ติดผลดก จะขาดปุ๋ยไม่ได้เลย หากต้นไม้ขาดปุ๋ย จะแสดงอาการทิ้งใบทันที ใบแก่บริเวณโคนกิ่งจะร่วงหล่นก่อน เพราะปริมาณธาตุอาหารไม่เพียงพอ หลังจากนั้น จะเคลื่อนย้ายไปที่ลูก ใบจะเหลืองก่อน เป็นอาการที่บ่งบอกให้รู้ว่า พืชได้รับปุ๋ยไม่เพียงพอ
อาจารย์ประเวศ : การใช้สารแพคโคลบิวทราโซล?
รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี : สารแพคโคลบิวทราโซล (Paclobutrazol : PBZ) เป็นสารชะลอการเจริญเติบโตโดยธรรมชาติ พืชจะสร้างฮอร์โมนพืช gibberellic acid หรือ GA เสริมการเจริญเติบโตของกิ่งและใบ การออกดอกของต้นไม้คือการสืบพันธุ์จะอยู่ตรงกันข้ามกับการเจริญเติบโตของกิ่ง-ใบ เหมือนกับคานที่กระโดดไปกระโดดมา ดังนั้น การออกดอกของต้นไม้ นั่นคือการลดการเจริญเติบโตของกิ่ง-ใบ ให้น้อยลง เมื่อใช้สารแพคโคลบิวทราโซลจะไปลดปริมาณการสังเคราะห์ฮอร์โมนตามธรรมชาติของพืช ให้มีการเจริญเติบโตที่น้อยลง โอกาสที่จะออกดอกก็มีมากขึ้น ส่วนการลดปริมาณการให้น้ำ จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช
คุณรัตนพงษ์ : ช่วงผมเรียนที่วิทยาลัยเกษตร ได้รู้ว่า สารแพคโคลบิวทราโซลช่วยชะลอการเติบโตของไม้ผล เช่น มะม่วง ลำไย และมะนาวแล้วได้ผลดี ผมก็รู้สึกร้อนวิชา จึงขอคุณพ่อทดลองใช้สารแพคโคลบิวทราโซลไปราดต้นมะนาว อายุ 3 ปี จำนวน 25 ต้น เพื่อทำมะนาวนอกฤดู ปรากฏว่าต้นมะนาวออกดอกเยอะมาก แต่ไม่ยอมออกใบ ผมเห็นท่าไม่ดี เพราะออกดอกเป็น 2 เท่า ของต้นมะนาวธรรมดา ต้นมะนาวขาวโพลนไปหมด หลังหมดช่วงแทงดอก ต้นมะนาวก็ยังไม่ออกใบ แต่มีลูกมะนาวขนาดเท่ากับลูกชิ้นหมูลูกเล็กๆ และต้นมะนาวตายในที่สุด
แม้เจอโชคร้ายไปบ้าง แต่ทำให้ผมเรียนรู้ว่า สวนมะนาว อายุ 5 ปี หากวางแผนตัดโค่นในปีหน้า ต้องใช้จังหวะการปลูกมะนาวปีสุดท้ายให้เร่งทำมะนาวนอกฤดูให้ได้ผลผลิตมากที่สุด ผมตัดสินใจราดสารแพคโคลบิวทราโซลลงดินไปเลย ทำให้ต้นมะนาวมีผลผลิตอย่างเต็มที่ก่อนต้นตาย แต่ระวังอย่าใช้สารแพคโคลบิวทราโซลในปริมาณมาก เพราะจะทำให้ลูกมะนาวไม่ค่อยโต
รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี : สารแพคโคลบิวทราโซลจะไปยับยั้งการเจริญเติบโตของระบบรากพืชอย่างรุนแรง ถึงขั้นทำให้พืชตายได้ นี่คือ เหตุผลที่ผมนำสารชนิดนี้มาใช้ทางใบแทน หลังการตัดยอด 15 วัน ผมใช้สารแพคโคลบิวทราโซล 400 ppm ระดับความเข้มข้น 10% อัตรา 80 กรัม ผสมน้ำ 1 ปี๊บ ใช้ฉีดพ่นให้ใบยอดจนชื้น โดยระมัดระวังไม่ให้สารชนิดนี้ไหลลงดินเพื่อป้องกันไม่ให้สารชนิดนี้ไปยับยั้งการเติบโตของระบบราก การฉีดพ่นสารแพคโคลบิวทราโซลทางใบยอด หากใช้ในอัตราความเข้มข้นสูงกว่านี้ จะส่งผลกระทบทำให้ใบมีขนาดเล็กลงได้ เนื่องจากสารชนิดนี้จะไปสะสมอยู่ที่ใบยอด การออกดอกอยู่ที่ใบยอด เป้าหมายของการใช้สารชนิดนี้ คือยับยั้งการแทงยอดซับซ้อนในช่วงฤดูฝนนั่นเอง
อาจารย์ประเวศ : มีคำถามถึง "เจ๊เล็ก" เรื่องตลาดรับซื้อมะนาวตาฮิติ?
เจ๊เล็ก : เจ๊เล็กรับซื้อมะนาวตาฮิติเอง สำหรับช่วงฤดูแล้ง รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 55 บาท เพราะตลาดมีความต้องการมะนาวจำนวนมาก มีผลผลิตมากเท่าไหร่ เจ๊เล็กก็รับซื้อหมด แต่หากเป็นช่วงฤดูฝน ก็ต้องคุยราคากันใหม่ เพราะต้องเน้นรูปทรงสวย เพราะใครก็รู้ว่า หน้าฝนฉีดยาไม่ถึง ฝนตกชะล้างยาที่ฉีดไปหมด มะนาวจึงเกิดโรคขี้กลากขึ้น
โดยทั่วไป มะนาวตาฮิติ เป็นที่ต้องการในตลาดมาเลเซีย สำหรับการส่งออกมะนาวไปขายต่างประเทศ ต้องอาศัยการคัดพันธุ์และดูจากภาวะราคาเป็นหลักว่า ช่วงนั้นๆ มะนาวชนิดไหนมีราคาถูก ตลาดส่งออกต้องการมะนาวพันธุ์ไร้เมล็ดเป็นหลัก ส่วนมะนาวแป้นธรรมดาก็สามารถส่งออกได้เช่นกัน เพราะผู้ซื้อต่างประเทศต้องการสินค้าที่มีต้นทุนถูกด้วยเช่นกัน
รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี : มะนาวตาฮิติ พบในเกาะตาฮิติ หมู่เกาะแปซิฟิกใต้ มีโครโมโซมอยู่ 3 ชุด มีพันธุ์ใกล้เคียงกันเรียกว่า พันธุ์ Parss คิดว่าเป็นพันธุ์เดียวกับมะนาวตาฮิติ เมื่อนำมะนาวตาฮิติมาปลูกในไทยสามารถต้านทานแคงเกอร์ เกษตรกรได้ตั้งชื่อการค้าแตกต่างออกไป เช่น มะนาวทูลเกล้า เพื่อให้ราคามันสูงขึ้น แต่ความจริงเป็นมะนาวพันธุ์เดียวกันหมดล่ะครับ
อาจารย์ประเวศ : ใช้กระดูกวัวเผาเป็นขี้เถา ช่วยเพิ่มแคลเซียม ฟอสฟอรัส แก่ต้นมะนาวได้หรือไม่?
รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี : สำหรับกระดูกวัวเผาเป็นส่วนประกอบของแคลเซียมฟอสเฟต เกิดจากส่วนผสมของแคลเซียมกับฟอสเฟต ถือเป็นพันธะที่แกร่งที่สุดชนิดหนึ่งของโลก หากจะแยกพันธะนี้ออกจากกันได้ ต้องใช้กรดเกลือที่แก่มากๆ ถึงจะแยกสารทั้งสองชนิดออกจากกันได้ หากต้องการใช้เถ้ากระดูกวัวป่น ผมคิดว่า จะให้ผลลัพท์ที่ไม่คุ้มกับต้นทุนที่เสียไป
(กรุณาติดตามอ่าน "มะนาว ราคาแพง...มาปลูกขาย...ด้วยตัวเองดีกว่า" ตอนที่ 12 ได้ ในฉบับหน้า)
หน้า 96
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 26 ฉบับที่ 561 |
เทคโนฯ เสวนาสัญจร
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
"มะนาวราคาแพง...มาปลูกขายด้วยตัวเองดีกว่า" (ตอนจบ)
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้จัดสัมมนาวาระพิเศษ 25 ปี เทคโนโลยีชาวบ้าน ในหัวข้อ "เมื่อ มะนาว ราคาแพง มาปลูกและขาย...ด้วยตนเองดีกว่า" ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการปลูกมะนาวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
ในฉบับนี้ ขอนำเสนอช่วงสุดท้ายของการเสวนาที่ อาจารย์ประเวศ แสงเพชร เจ้าของคอลัมม์ "หมอเกษตร ทองกวาว" ในฐานะพิธีกรได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเสวนาซักถามประเด็นคำถามกับวิทยากรรับเชิญทั้ง 7 ท่าน ประกอบด้วย คุณศิริชัย จันทร์นาค โทร. (086) 167-3797 ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด คุณรัตนพงษ์ นิ่มวาด โทร. (085) 808-6515 เจ้าของสวนมะนาวรายใหญ่ที่หนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อาจารย์วัง สุขประเสริฐ โทร. (087) 201-4607 ผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร คุณทวิน แจ้งจันทร์ และ คุณช่อทิพย์ ศิริพันธุ์ (เจ๊เล็ก) ผู้ค้ามะนาวรายใหญ่ของตลาดไท
อาจารย์ประเวศ : มะนาวแต่ละช่วงอายุ ต้องการธาตุอาหารหลักอะไรบ้าง???
อาจารย์วัง : ช่วงมะนาวต้นเล็กๆ แนะนำให้ใช้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 จำนวน 3 กิโลกรัม + ปุ๋ยยูเรีย 1 กิโลกรัม เพื่อเร่งการเจริญเติบโต จุดเด่นของมะนาวจะโตหรือไม่ อยู่ที่การดูแลเป็นหลัก เมื่อต้นมะนาวอายุ 45 วัน จะแตกใบอ่อน ระยะนี้ ต้องคอยระวังไม่ให้หนอนชอนใบเข้ากัดกินใบอ่อน เพราะหากรักษาใบอ่อนไว้ไม่ได้ ต้นมะนาวก็ไม่โต และมีปัญหาโรคแคงเกอร์เกิดขึ้นด้วย มะนาวชุดนี้จะหยุดการเจริญเติบโตไปอีก 45 วัน ดังนั้น หัวใจสำคัญของการปลูกมะนาว คือ ต้องรักษาใบอ่อนให้ได้ก่อน
N-P-K (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม) คือ แร่ธาตุอาหารหลักที่มีความจำเป็นต่อการเติบโตของต้นมะนาว รองลงมาคือ ธาตุอาหารรองอีก 14 ชนิด เช่น แคลเซียม โบรอน ฯลฯ ซึ่งพืชมีพอใช้อยู่ในลำต้นแล้ว หากสังเกตเห็นผิวมะนาวไม่มัน ไม่สวย ให้ใช้ปุ๋ยหวาน สูตร 0-0-60 ก่อนเก็บผลผลิตประมาณ 2 เดือน จะช่วยให้ผลมะนาวมีผิวมัน สวย
ผู้เข้าร่วมเสวนา : สวัสดีครับ ผมชื่อ นายรัตนกิจ เชาว์เกษมวัฒน์ สนใจที่จะปลูกมะนาวเชิงการค้า ผมอยากรู้ว่า ความต้องการใช้มะนาวภายในประเทศมีเท่าไหร่ มีผลผลิตต่อปีละเท่าไหร่ ส่งออกไปขายที่ประเทศไหนบ้าง จำนวนเท่าไหร่ ???
อาจารย์ประเวศ : สามารถค้นหาข้อมูลเรื่องตลาดมะนาวบางส่วนได้ที่กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ส่วนเรื่องการส่งออกมะนาว คงจะต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ๊เล็ก
เจ๊เล็ก : หากสวนมะนาวของคุณมีผลผลิตแล้ว อยากส่งออก เจ๊เล็กยินดีติดต่อตลาดผู้ซื้อต่างประเทศให้คุณได้ แค่คุณผลิตมะนาวให้ได้มาตรฐานตลาดส่งออก ทุกวันนี้ ทางร้านส่งออกมะนาวไปยัง 6 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน จีน สำหรับตลาดมาเลเซียต้องการมะนาวราคาถูก มะนาวไทยขายได้ในราคาดีที่ตลาดญี่ปุ่น แต่การส่งออกไปตลาดญี่ปุ่นทำได้ยาก เพราะเจอปัญหาสารเคมีตกค้าง หากคุณต้องการส่งออกมะนาวไปตลาดไต้หวัน จีน ฮ่องกง เจ๊เล็กสามารถให้คำแนะนำได้ เพียงแค่สินค้ามะนาวของคุณได้มาตรฐานการส่งออก
คุณไม่ต้องกลัวว่า ปลูกมะนาวแล้วขายไม่ได้ โดยเฉพาะมะนาวแป้นรำไพ มีเท่าไหร่ก็ขายได้หมด เพราะเป็นมะนาวพันธุ์ดั้งเดิมตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย คนไทยนิยมมะนาวพันธุ์นี้มาโดยตลอด หากคิดจะปลูกมะนาว เกษตรกรลองถามผู้รับซื้อเสียก่อนว่า ตลาดต้องการมะนาวพันธุ์ไหน
สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ยังไม่มีตลาดรับซื้อ ขอเชิญไปใช้บริการได้ที่ตลาดไท เพราะที่นี่มีแผงมะนาวรายใหญ่ ถึง 22 ร้าน ที่รับซื้อมะนาวเป็นคันรถสิบล้อ และมีผู้ค้ามะนาวร้านเล็กๆ อีก 20 กว่าร้านค้า หากใครมีผลผลิตมะนาว แต่ไม่อยากขายดิฉันเพราะคิดว่าให้ราคาไม่ดี ดิฉันก็สามารถติดต่อแหล่งรับซื้อให้คุณได้เรื่อยๆ จนขายสินค้าได้ในราคาที่คุณพอใจ เพราะดิฉันก็ใหญ่ในตลาดไทเหมือนกัน สามารถพาคุณไปฝากเพื่อนๆ ได้ว่า คุณเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดตลาดเลย ขอแค่ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานของตลาด ราคาเท่าไหร่ ดิฉันก็รับซื้อค่ะ เพราะถือว่านานๆ มาเยี่ยมตลาด แต่หากทำแล้ว ผลผลิตไม่สวย ก็ยินดีรับซื้อทั้งหมด เพราะดิฉันมีโรงงานคั้นน้ำมะนาวเป็นของตัวเอง คั้นมะนาวแช่เย็นเป็นเกล็ดหิมะ ส่งขายทั่วประเทศไทย เฉลี่ยปีละ 200 ตัน ช่วงหน้าแล้ง ดิฉันรับซื้อมะนาวในราคากิโลกรัมละ 50 บาท แต่ช่วงมะนาวราคาถูก รับซื้อที่กิโลกรัมละ 5-10 บาท ดิฉันบอกได้เลยว่า มะนาวเป็นพืชที่กินได้ตลอดชีวิต ไม่มีเงินก็เดินเข้าสวน เก็บมะนาวออกขายได้เงินตลอด
คุณทวิน : ผมขอเสริมข้อมูลเรื่องการส่งออกมะนาวสักเล็กน้อย การส่งออกมะนาวไปญี่ปุ่น ถือว่ายากที่สุด ญี่ปุ่นไม่ซื้อมะนาวที่ปลูกใกล้นาข้าวและไร่อ้อย เพราะเสี่ยงเจอปัญหาการปนเปื้อนสารเคมี จากการทำนาหรือไร่อ้อย มะนาวที่มีปัญหาแคงเกอร์ก็ส่งไปญี่ปุ่นไม่ได้ ที่ผ่านมา กว่าผมจะส่งออกมะนาวไปขายญี่ปุ่นได้ จะต้องส่งตัวอย่างมะนาวไปตรวจสอบหาสารเคมีตกค้างซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง มะนาว 100 ลูก คัดคุณภาพแล้วจะส่งไปขายญี่ปุ่นได้ไม่ถึง 50 ลูก แต่ฮ่องกงเป็นประเทศที่ส่งออกมะนาวได้ง่ายที่สุด
อาจารย์ประเวศ : ปลูกมะนาวแบบธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมีจะให้ผลผลิตดีหรือไม่???
อาจารย์วัง : การปลูกพืชอินทรีย์ส่วนมากใช้กับไม้ผล ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืนยาว ผมเคยทดลองปลูกส้มโอขาวแตงกวา ขาวทองดี ในระบบเกษตรอินทรีย์ ปรากฏว่าอยู่ไม่รอด เพราะเจอปัญหาที่มักเกิดกับพืชตระกูลส้ม การปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์จริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่เครื่องตัดหญ้ายังใช้ไม่ได้ เพราะขัดแย้งกับระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเวลาใช้เครื่องตัดหญ้าจะมีควันลอยออกมา นอกจากนี้ แปลงที่ปลูกในระบบอินทรีย์ ต้องมีระยะห่างจากแปลงที่ใช้สารเคมีพอสมควร หากต้องการปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ ควรใช้กับพืชผักจะเหมาะสมมากกว่า หากคิดจะปลูกมะนาวในระบบอินทรีย์ก็ทำได้ แต่ให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร
ผู้เข้าร่วมเสวนา : สวัสดีครับ ผมชื่อ สมศักดิ์...อยากเรียนถามเรื่องการให้ปุ๋ยต้นมะนาวสายพันธุ์ตระกูลแป้น ผมสงสัยว่า มะนาวอายุ 6 เดือน-1 ปี ขนาดต้นเท่ากัน ใส่ปุ๋ยพร้อมกัน ปลูกในกระถางดินเผา 3.5 นิ้ว ทำไมมีขนาดผลใหญ่เล็กต่างกัน และมีปริมาณผลผลิตไม่เท่ากัน บางต้นให้ผลผลิต 120 ลูก แต่บางต้นมีผลผลิตแค่ 40 ลูก
อาจารย์วัง : หากปลูกมะนาวโดยใช้กิ่งตอน ที่มีเกสรตัวผู้ ตัวเมีย บางครั้ง หากคุณรดน้ำไม่ได้จังหวะ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนฮอร์โมนเกสรตัวเมียมาเป็นเกสรตัวผู้เป็นส่วนใหญ่ ดอกมะนาวจะขาวโพลนเต็มต้นเหมือนดอกมะลิ พอติดลูกแล้ว จะได้ผลผลิตไม่เกิน 30-40 ลูก เนื่องจากมีเกสรตัวผู้เยอะ มีสวนมะนาวแห่งหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี ปลูกมะนาวตาฮิติอายุ 3 ปี ไม่ติดลูกเลย เพราะปลูกบริเวณชายทะเล เจอปัญหาลมแรง ทำให้การผสมเกสรเป็นเรื่องยาก ผมเสนอให้แก้ไขปัญหาโดยปลูกมะนาวที่ติดเกสรง่ายๆ ปลูกสลับกับมะนาวตาฮิติ ปรากฏว่า ทำให้ต้นมะนาวติดผลได้มากขึ้น
หากคุณเป็นเซียนมะนาว ย่อมรู้ว่า ตาดอก ตาใบ มันแตกต่างกัน ท่านสามารถเปลี่ยนจุดอ่อน จากตาใบให้เป็นตาดอกได้โดยใช้สารเปิดตาดอก ฉีดพ่นสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หากใครคิดจะทำแปลงกิ่งพันธุ์ออกจำหน่าย ผมขอแนะนำให้แยกแปลงออกจากกัน แปลงนี้สำหรับทำกิ่งพันธุ์ ส่วนอีกแปลงสำหรับผลิตลูกโดยเฉพาะ เนื่องจากต้นมะนาวที่ถูกตัดกิ่ง โอกาสที่จะออกลูกมีน้อย กิ่งที่จะออกลูกได้จะต้องผ่านการตัดกิ่งมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 1 ฤดูกาล คุณรู้หรือเปล่า มะนาวจะสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ อยู่ตรงไหน ดอกสมบูรณ์อยู่ที่ปลายกิ่ง ดอกที่สมบูรณ์รองลงมาจะอยู่ที่ยอดใบ ส่วนดอกที่ไม่สมบูรณ์ จะอยู่ในทรงพุ่ม หากตัดยอด อายุของกิ่งไม่มากพอที่จะออกลูกได้
ผู้เข้าร่วมเสวนา : เมื่อเปิดตลาดประชาคมอาเซียน (เออีซี) จะส่งผลกระทบต่อมะนาวไทยหรือไม่???
คุณศิริชัย : มีผลกระทบต่อตลาดมะนาวไทยแน่นอน เพราะมีมะนาวจากเวียดนามส่งเข้ามาขายในไทย ทุกวันนี้ ที่ตลาดท่ายาง บ้านลาด อาจมีมะนาวเวียดนามเข้ามาวางขายแล้ว หากมองผิวเผินก็ไม่รู้หรอกครับว่า เป็นมะนาวไทย มะนาวเวียดนาม หรือมะนาวจากที่ไหน จะรู้ก็เมื่อนำมะนาวไปใช้งาน ว่ามะนาวลูกนั้นมีรสชาติ กลิ่นอย่างไร หากไม่มีการเก็บภาษีในอนาคต ทำให้มะนาวจากประเทศเพื่อนบ้านถูกนำเข้ามาขายในไทยได้อย่างเสรี แต่ผมเชื่อว่า มะนาวจากประเทศเพื่อนบ้านคงจะมีคุณภาพสู้มะนาวไทยไม่ได้
อาจารย์ประเวศ : ผมฟังแล้วใจชื้นหน่อยว่า มะนาวไทยยังอยู่ได้ เกษตรกรก็พยายามพัฒนาคุณภาพมะนาวไทยให้หนีคู่แข่ง ที่ผ่านมา มาเลเซียก็ซื้อมะนาวจากไทย ส่วนมะนาวของฟิลิปปินส์ และเวียดนามยังห่างไกลมะนาวไทยมาก ถือได้ว่า มะนาวไทยมีคุณภาพเหนือคู่แข่ง สบายใจได้
เจ๊เล็ก : ในช่วงหน้าแล้ง มะนาวที่ปลูกในไทยมีปริมาณน้อย ไม่พอขาย แถมมีราคาแพง ดิฉันก็ต้องนำเข้ามะนาวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขาย เพื่อเป็นสินค้าทางเลือกให้แก่คนรากหญ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านขายส้มตำ ร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ที่ต้องการใช้มะนาวราคาถูก ในช่วงหน้าแล้ง ดิฉันสามารถนำเข้ามะนาวจากประเทศเพื่อนบ้านในราคาถูก เพียงใบละ 1 บาท แถมมีคุณภาพดี มีประโยชน์มากกว่า กินน้ำมะนาวเทียมที่ทำมาจากสารเคมี ที่จะเป็นพิษภัยต่อสุขภาพผู้บริโภค ดิฉันเคยลองซื้อน้ำมะนาวเทียมที่ขายในท้องตลาดไปเทราดบนพื้นปูน สังเกตเห็นเนื้อปูนลอกออกมาเป็นแผ่นๆ เลย เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ไม่รู้ว่าที่ผ่านมา น้ำมะนาวเทียมได้ทำลายสุขภาพคนไทยไปสักแค่ไหน
ส่วนกรณีนำเข้ามะนาวจากประเทศเพื่อนบ้าน เกษตรกรไม่ต้องตกใจว่า มะนาวเพื่อนบ้านจะตีตลาด เพราะดิฉันไม่ได้นำเข้าเยอะ เนื่องจากมีกฎหมายคุ้มครอง ส่วนฤดูปกติ มะนาวเพื่อนบ้านก็ขายไม่ได้ คนไทยไม่นิยม เพราะมีคุณภาพสู้มะนาวไทยไม่ได้
หน้า 82
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น